นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เข้าชี้แจงรายงานกระบวนการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของประเทศตามกลไก Universal Periodic Review หรือ ยูพีอาร์ รอบที่ 2 ซึ่งเป็นกลไกภายใต้คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งประชาชาติ โดยประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ 105 ประเทศ จากทั้งหมด 193 ประเทศ
นายชาญเชาวน์ กล่าวว่า ในการรายงานสิทธิมนุษยชนครั้งนี้ มีตัวแทนของประเทศไทยจากหลายหน่วยงานร่วมกันนำเสนอรายงาน เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงกลาโหม ซึ่งไม่ใช่การเรียกประเทศไทยไปซักถามหรือชี้แจง โดยประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมจำนวน 102 ประเทศ ก็มีข้อเสนอแนะแก่ฝ่ายไทยในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการค้ามนุษย์ สิทธิแรงงานด้านสิทธิมนุษยชนทั่วไป สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการแสดงความคิดเห็น การนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร กฎหมายการหมิ่นพระบรมราชานุภาพ รวมถึงแสดงความกังวลในเรื่องคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในเรื่องสิทธิเสรีภาพ ซึ่งบรรยากาศโดยรวมประเทศสมาชิกก็มีการชื่นชมพัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนของไทย และสนับสนุนให้ไทยดำเนินการในการเข้าสู่ประชาธิปไตยได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ทั้งนี้ ไทยชี้แจงว่าไทยมีความก้าวหน้าในการทำงานด้านสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องการค้ามนุษย์และในด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ส่วนข้อเสนอแนะต่าง ๆ นั้น ประเทศไทยรับว่าจะนำไปพิจารณาทบทวน โดยคำนึงถึงนโยบายรัฐบาลเป็นหลัก และหลังจากการรายงานต่อ UPR ประเทศไทยก็จะปฏิบัติตามในเรื่องสิทธิมนุษยชนทุกกระบวนการ รวมถึงจะติดตามและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปที่ได้เดินทางไปในครั้งนี้คือไทยได้ทบทวนเรื่องสิทธิมนุษยชน พร้อมรับทราบคำแนะนำและการเอาใจช่วยการดำเนินการช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมสนับสนุนในกระบวนการพัฒนากระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยมากขึ้น
นายชาญเชาวน์ กล่าวว่า ในการรายงานสิทธิมนุษยชนครั้งนี้ มีตัวแทนของประเทศไทยจากหลายหน่วยงานร่วมกันนำเสนอรายงาน เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงกลาโหม ซึ่งไม่ใช่การเรียกประเทศไทยไปซักถามหรือชี้แจง โดยประเทศสมาชิกที่เข้าร่วมจำนวน 102 ประเทศ ก็มีข้อเสนอแนะแก่ฝ่ายไทยในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการค้ามนุษย์ สิทธิแรงงานด้านสิทธิมนุษยชนทั่วไป สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการแสดงความคิดเห็น การนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร กฎหมายการหมิ่นพระบรมราชานุภาพ รวมถึงแสดงความกังวลในเรื่องคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในเรื่องสิทธิเสรีภาพ ซึ่งบรรยากาศโดยรวมประเทศสมาชิกก็มีการชื่นชมพัฒนาการด้านสิทธิมนุษยชนของไทย และสนับสนุนให้ไทยดำเนินการในการเข้าสู่ประชาธิปไตยได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ทั้งนี้ ไทยชี้แจงว่าไทยมีความก้าวหน้าในการทำงานด้านสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องการค้ามนุษย์และในด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ส่วนข้อเสนอแนะต่าง ๆ นั้น ประเทศไทยรับว่าจะนำไปพิจารณาทบทวน โดยคำนึงถึงนโยบายรัฐบาลเป็นหลัก และหลังจากการรายงานต่อ UPR ประเทศไทยก็จะปฏิบัติตามในเรื่องสิทธิมนุษยชนทุกกระบวนการ รวมถึงจะติดตามและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปที่ได้เดินทางไปในครั้งนี้คือไทยได้ทบทวนเรื่องสิทธิมนุษยชน พร้อมรับทราบคำแนะนำและการเอาใจช่วยการดำเนินการช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมสนับสนุนในกระบวนการพัฒนากระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยมากขึ้น
