นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะออกกฎหมายเรียนฟรี 15 ปี ว่า นับเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของการศึกษา ตั้งแต่เด็กก่อนวัยเรียน จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เหมือนกับที่รัฐบาลสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เคยทำมาแล้ว ถึงแม้รัฐธรรมนูญปี 2550 จะบัญญัติให้จัดการศึกษาฟรี 12 ปี ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ได้เพิ่มเติมให้เด็กก่อนวัยเรียนฟรีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพราะเล็งเห็นการพัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนถือเป็นเรื่องสำคัญ และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐควรจัดสรรงบประมาณให้พอเพียงกับการพัฒนาบุคคลากรของชาติ ให้มีความพร้อมที่จะเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะเด็กก่อนวันเรียนที่ด้อยโอกาส ขาดความพร้อมทางเศรษฐกิจ ฐานะของพ่อแม่ไม่ดี จะมีโอกาสได้ประโยชน์มาก ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมา ทุกรัฐบาลก็ได้ดำเนินการตามที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ได้วางรางฐานไว้เป็นอย่างดี ถึงแม้รัฐธรรมนูญจะไม่ได้เขียนไว้ให้ต้องดูแลถึงเด็กก่อนวัยเรียนก็ตาม
เพราะฉะนั้น การที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่กำลังอยู่ระหว่างการทำประชามติ จะไม่ได้เขียนไว้ให้เรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ 15 ปี โดยเขียนไว้เพียงให้รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับ คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรต่อการออกกฎหมายรองรับให้มีการอุดหนุนการเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ 15 ปี ซึ่งจะทำให้ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล ทำหน้าที่บริหารประเทศ จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย จัดให้มีการเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ 15 ปี โดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
นายองอาจ กล่าวด้วยว่า การพัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนให้มีคุณภาพย่อมขึ้นอยู่กับคุณภาพของครูที่ดูแลเด็กด้วย รัฐบาลจึงควรเอาใจใส่อย่างจริงจังให้ครูได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพ เพียงพอต่อการดูแลอบรมให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ รัฐบาลควรเร่งแก้ไขปัญหาเด็กเลิกเรียนกลางคัน หรือไม่เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น หาช่องทางให้เด็กได้เรียนต่อจนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย และ ปวช.ให้ได้ เพื่อให้บุคลากรของชาติมีศักยภาพเพิ่มขึ้นแบบมีคุณภาพต่อไป
เพราะฉะนั้น การที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่กำลังอยู่ระหว่างการทำประชามติ จะไม่ได้เขียนไว้ให้เรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ 15 ปี โดยเขียนไว้เพียงให้รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับ คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรต่อการออกกฎหมายรองรับให้มีการอุดหนุนการเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ 15 ปี ซึ่งจะทำให้ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล ทำหน้าที่บริหารประเทศ จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย จัดให้มีการเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ 15 ปี โดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
นายองอาจ กล่าวด้วยว่า การพัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนให้มีคุณภาพย่อมขึ้นอยู่กับคุณภาพของครูที่ดูแลเด็กด้วย รัฐบาลจึงควรเอาใจใส่อย่างจริงจังให้ครูได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพ เพียงพอต่อการดูแลอบรมให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ รัฐบาลควรเร่งแก้ไขปัญหาเด็กเลิกเรียนกลางคัน หรือไม่เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น หาช่องทางให้เด็กได้เรียนต่อจนจบมัธยมศึกษาตอนปลาย และ ปวช.ให้ได้ เพื่อให้บุคลากรของชาติมีศักยภาพเพิ่มขึ้นแบบมีคุณภาพต่อไป