นางสาววิบูลลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามสถานการณ์เหล็ก ณ ร้านกนกวรรณ สตีล จำกัด อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยยืนยันว่า เหล็กในประเทศยังไม่ขาดตลาด ผู้ค้ายังสั่งซื้อจากโรงงานผลิตได้ตามปกติ ซึ่งโรงงานงานมีกำลังการผลิต 50 เปอร์เซนต์ของกำลังการผลิตทั้งหมด และยังสามารถเพิ่มการผลิตได้อีก ดังนั้น ผู้ประกอบการสามารถคลายความกังวลได้ว่าสินค้าเหล็กจะยังไม่ขาดตลาดในระยะนี้
ส่วนที่ราคาเหล็กเส้นและเหล็กรูปพรรณปรับขึ้นประมาณ 2-3 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ราคาเหล็กเฉลี่ยนอยู่ที่ 20-21บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมเมื่อช่วงปลายปีอยู่ที่ 17-18 บาทต่อกิโลกรัม มีสาเหตุมาจากประเทศจีน มีปริมาณสต็อกเหล็กประเทศค่อนข้างสูง ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบต่ำเกินไป รัฐบาลจีนจึงเข้ามาควบคุมโดยการกำกับดูแลและสั่งปิดโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้สินค้าเหล็กของไทยปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะเหล็กเส้นและเหล็กหล่อรูป
ส่วนมาตรการการกำกับดูแลราคาเหล็ก ผู้ประกอบการที่จะปรับราคาต้องแจ้งกรมการค้าภายในภายใน 7 วัน เพื่อให้ผู้บริโภคมีการปรับตัว พร้อมยืนยันว่าราคาที่ปรับขึ้นเป็นไปตามกลไกของราคาวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในได้ส่งสายตรวจทั้งส่วนกลางและภูมิภาคออกตรวจสอบติดตามราคาสินค้าเหล็กตามร้านค้าต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบมากเกินไป
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวยืนยันว่า ปริมาณเหล็กในประเทศมีเพียงพอต่อความต้องการ และจะไม่กระทบต่อโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในขณะนี้แน่นอน
ส่วนที่ราคาเหล็กเส้นและเหล็กรูปพรรณปรับขึ้นประมาณ 2-3 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ราคาเหล็กเฉลี่ยนอยู่ที่ 20-21บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมเมื่อช่วงปลายปีอยู่ที่ 17-18 บาทต่อกิโลกรัม มีสาเหตุมาจากประเทศจีน มีปริมาณสต็อกเหล็กประเทศค่อนข้างสูง ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบต่ำเกินไป รัฐบาลจีนจึงเข้ามาควบคุมโดยการกำกับดูแลและสั่งปิดโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้สินค้าเหล็กของไทยปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะเหล็กเส้นและเหล็กหล่อรูป
ส่วนมาตรการการกำกับดูแลราคาเหล็ก ผู้ประกอบการที่จะปรับราคาต้องแจ้งกรมการค้าภายในภายใน 7 วัน เพื่อให้ผู้บริโภคมีการปรับตัว พร้อมยืนยันว่าราคาที่ปรับขึ้นเป็นไปตามกลไกของราคาวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในได้ส่งสายตรวจทั้งส่วนกลางและภูมิภาคออกตรวจสอบติดตามราคาสินค้าเหล็กตามร้านค้าต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบมากเกินไป
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวยืนยันว่า ปริมาณเหล็กในประเทศมีเพียงพอต่อความต้องการ และจะไม่กระทบต่อโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในขณะนี้แน่นอน
