เอพี / รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / MGR online - ทางการกายอานาสั่งปิดโรงงานน้ำตาลที่อยู่ในความควบคุมของรัฐบาลในวันอังคาร (19 ม.ค.) หลังประสบภาวะขาดทุนสะสมต่อเนื่องมานานหลายปี ท่ามกลางรายงานที่ระบุว่า รัฐบาลกายอานาต้องการลดบทบาทของตนในการสนับสนุนอุตสาหกรรมน้ำตาล ซึ่งกำลังตกต่ำ แม้จะเคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมระดับแถวหน้าของประเทศ
รายงานข่าวซึ่งมีการเผยแพร่ที่กรุงจอร์จทาวน์ ระบุว่า โนเอล โฮลเดอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของกายอานา ออกมายืนยันข่าวการปิดโรงงานน้ำตาลของรัฐอย่างเป็นทางการแล้ว เนื่องจากภาวะซบเซาของการส่งออกน้ำตาลในตลาดโลก ประกอบกับภาระด้านการอัดฉีดงบประมาณอุดหนุนโรงงานน้ำตาลของรัฐบาลกายอานาที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในแต่ละปี
รายงานข่าวระบุว่า หากรัฐบาลกายอานายังคงตัดสินใจเปิดดำเนินกิจการโรงงานน้ำตาลของตนต่อไป ทางรัฐบาลกายอานาจะต้องใช้งบประมาณในการอุดหนุนโรงงานเฉพาะในปี 2016 นี้ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 2,115 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นภาระอันหนักอึ้งสำหรับประเทศเกษตรขนาดเล็กๆ ที่มีรายได้ไม่มากนักอย่างกายอานา
อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลกายอานาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากโคมาล แชนด์ สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านซึ่งเป็นแกนนำสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลที่ระบุว่า รัฐบาลกายอานาตัดสินใจผิดพลาดอย่างเลวร้ายในเรื่องนี้ และรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบต่อชะตากรรมของคนงานกว่า 1,500 ชีวิตที่ต้องกลายเป็น “ผู้ว่างงาน”
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า โรงงานน้ำตาลของรัฐบาลกายอานาที่ถูกสั่งปิดกิจการในวันอังคาร (19) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงจอร์จทาวน์ และถือเป็นหนึ่งในโรงงานน้ำตาลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยการสั่งปิดโรงงานแห่งนี้จะส่งผลให้ทั่วประเทศกายอานาจะเหลือโรงงานน้ำตาลที่ยังดำเนินกิจการอยู่อีกเพียง 5 แห่งเท่านั้น