ทพญ.ปิยะดา ประเสริญสม ผู้จัดการโครงการเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน สสส. กล่าวว่า คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคม สปท. จะเสนอเรื่องการขึ้นจัดเก็บอัตราภาษี เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกินมาตรฐานสุขภาพ ครอบคลุมน้ำอัดลม ชาเขียว กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำถั่วเหลือง น้ำผลไม้ ต่อที่ประชุมครม . โดยการเสนอเก็บภาษีแบบ 2 อัตรา ตามความเข้มข้นของน้ำตาล หากในผลิตภัณฑ์หรือเครื่องดื่ม มีน้ำตาล ปริมาณน้ำตาลมากกว่า 6-10 กรัม ต่อ 100 มิลลิกรัม จัดเก็บภาษีไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 แต่หากปริมาณน้ำตาลมากกว่า 10 กรัม ต่อ 100 มิลลิกรัม จัดเก็บภาษีไม่เกินร้อยละ 25
ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวเป็นมาตรการทางสุขภาพที่เป็นข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก ซึ่งในต่างประเทศ อย่างเม็กซิโก และฮังการี ก็ได้ทำตามนโยบายนี้ ส่งผลให้เกิดประโยชน์ด้วยกัน 2 ทาง 1.เกิดการลดบริโภคเครื่องดื่มที่ปริมาณน้ำสูงเกินมาตรฐาน 2.ทางบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่ม เกิดการคิดค้นสูตรเครื่องแบบใหม่ ชนิดที่มีน้ำตาลน้อย
ทพญ.ปิยะดา กล่าวว่า มาตรการนี้จะเห็นผลอย่างชัดเจนในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง หรือรายได้น้อย เกิดการบริโภคลดลง เพราะในต่างประเทศเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงถืออยู่ในหมดสินค้าฟุ่มเฟือย และในประเทศเม็กซิโกยังมีการประกาศว่า ในอีก 10 ข้างหน้า ประชากรในประเทศของเค้าจะมีผู้ป่วยเบาหวานลดลง ถึง 600,000 คน ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทย ต้องยอมรับ ปัจจุบันคนไทยมีตัวเลขผู้ป่วยโรคเบาหวาน 1 ล้านคน และยังมีสถานการณ์ของเด็กอ้วน แม้ที่ผ่านมาประเทศไทย จะประสบความสำเร็จโรงเรียนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการจำกัดน้ำอัดลม ขนมถุง โรงเรียนบางแห่งไม่มีการจำหน่ายน้ำอัดลม แต่ก็พบว่า แม้สามารถห้ามโรงเรียนได้ แต่ไม่สามารถห้ามการบริโภคนอกโรงเรียน ซึ่งเด็กยังบริโภคอยู่ การออกมาตรการเช่นนี้ ต้องถือว่าเป็นการนำเรื่องของเศรษฐกิจ และการเงินดูแลสุขภาพ นับเป็นมิติใหม่ของการจัดเก็บภาษีเพื่อสุขภาพของคนไทย
ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวเป็นมาตรการทางสุขภาพที่เป็นข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก ซึ่งในต่างประเทศ อย่างเม็กซิโก และฮังการี ก็ได้ทำตามนโยบายนี้ ส่งผลให้เกิดประโยชน์ด้วยกัน 2 ทาง 1.เกิดการลดบริโภคเครื่องดื่มที่ปริมาณน้ำสูงเกินมาตรฐาน 2.ทางบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่ม เกิดการคิดค้นสูตรเครื่องแบบใหม่ ชนิดที่มีน้ำตาลน้อย
ทพญ.ปิยะดา กล่าวว่า มาตรการนี้จะเห็นผลอย่างชัดเจนในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง หรือรายได้น้อย เกิดการบริโภคลดลง เพราะในต่างประเทศเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงถืออยู่ในหมดสินค้าฟุ่มเฟือย และในประเทศเม็กซิโกยังมีการประกาศว่า ในอีก 10 ข้างหน้า ประชากรในประเทศของเค้าจะมีผู้ป่วยเบาหวานลดลง ถึง 600,000 คน ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทย ต้องยอมรับ ปัจจุบันคนไทยมีตัวเลขผู้ป่วยโรคเบาหวาน 1 ล้านคน และยังมีสถานการณ์ของเด็กอ้วน แม้ที่ผ่านมาประเทศไทย จะประสบความสำเร็จโรงเรียนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการจำกัดน้ำอัดลม ขนมถุง โรงเรียนบางแห่งไม่มีการจำหน่ายน้ำอัดลม แต่ก็พบว่า แม้สามารถห้ามโรงเรียนได้ แต่ไม่สามารถห้ามการบริโภคนอกโรงเรียน ซึ่งเด็กยังบริโภคอยู่ การออกมาตรการเช่นนี้ ต้องถือว่าเป็นการนำเรื่องของเศรษฐกิจ และการเงินดูแลสุขภาพ นับเป็นมิติใหม่ของการจัดเก็บภาษีเพื่อสุขภาพของคนไทย