สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ว่าขณะนี้สำนักเลขาธิการ ป.ป.ช. ที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการแสวงหาข้อเท็จจริงการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ได้รับข้อมูลจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ครบถ้วนหมดแล้ว แต่ ป.ป.ช. พบว่าการตรวจสอบของศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ที่มี สตง. และ ป.ป.ท. เป็นผู้รับผิดชอบ มีบางประเด็นที่ตรวจสอบไม่ครบในบางประเด็น ป.ป.ช. จึงต้องดำเนินการตรวจสอบให้ครบถ้วน รวมถึงประเด็นการหักหัวคิวในการหล่อพระบรมรูป 7 รัชกาล ประเด็นการซื้อต้นไม้แพงเกินจริง และประเด็นการใช้งบประมาณแผ่นดิน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมด้วย
ส่วนประเด็นที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ร้องเรียนกล่าวหา พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีตผู้บัญชาการทหารบก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อดีตปลัดกลาโหม ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานนั้น เป็นประเด็นเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ลงโทษนายทหารระดับสูง 2 ราย ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความไม่โปร่งใสในการดำเนินการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ นั้นก็อยู่ระหว่างแสวงหาข้อเท็จจริงเช่นกัน โดยจะใช้ข้อมูลจากสื่อมวลชนของสตง. และ ป.ป.ท. เป็นหลัก
ส่วนประเด็นที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ร้องเรียนกล่าวหา พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีตผู้บัญชาการทหารบก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล อดีตปลัดกลาโหม ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานนั้น เป็นประเด็นเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ลงโทษนายทหารระดับสูง 2 ราย ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความไม่โปร่งใสในการดำเนินการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ นั้นก็อยู่ระหว่างแสวงหาข้อเท็จจริงเช่นกัน โดยจะใช้ข้อมูลจากสื่อมวลชนของสตง. และ ป.ป.ท. เป็นหลัก