ชี้การเลือกตั้งขั้นต้นซึ่งจัดขึ้นใน 5 รัฐทางแถบอีสต์โคสต์พร้อมกันในวันอังคาร (26 เม.ย.) มีแนวโน้มส่งให้ “ฮิลลารี คลินตัน” ใกล้น็อกเอาต์ “เบอร์นี แซนเดอร์ส” อยู่หมัด กระนั้นผู้จัดการแคมเปญหาเสียงยืนยันว่า วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากเวอร์มอนต์ผู้นี้จะกัดฟันสู้ต่อจนถึงการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตเดือนกรกฎาคม เช่นเดียวกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ยังมั่นใจเกินร้อย ถึงแม้ 2 คู่แข่งได้ตกลงสงบศึกชั่วคราวเพื่อร่วมมือกันสกัดตัวเอง
โดนัลด์ ทรัมป์ เดินเครื่องเต็มที่ในการเลือกตั้งขั้นต้น 5 มลรัฐในแถบชายฝั่งภาคตะวันออกของสหรัฐฯ ได้แก่ คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ แมริแลนด์ เพนซิลเวเนีย และโรดไอแลนด์ เพื่อให้ได้ตัวแทนผู้ลงคะแนนรวมแล้วเกิน 1,237 คนโดยเร็ว อันจะทำให้เขาได้รับเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พฤศจิกายนอย่างไร้ข้อโต้แย้ง
แต่ดูเหมือนคู่แข่งจะไม่ยอมให้ทรัมป์สมหวังง่ายๆ โดยเมื่อวันอาทิตย์ (24) 2 คู่แข่งในพรรคที่ยังเหลืออยู่ อันได้แก่ เท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกจากมลรัฐเทกซัส และจอห์น เคซิก ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ ได้ประกาศรวมพลังชั่วคราวเพื่อสกัดทรัมป์ ด้วยการงดแข่งขันกันเองใน 3 รัฐที่จะมีการจัดเลือกตั้งขั้นต้นเดือนหน้า โดยเคซิก จะงดหาเสียงในรัฐอินดีแอนา และหันไปทุ่มเททรัพยากรในมลรัฐนิวเม็กซิโกและออริกอนแทน เช่นเดียวกับครูซ ที่จะเดินหน้าเข้าหาผู้มีสิทธิ์ออกเสียงในอินดีแอนาเต็มสูบ และปล่อยสองรัฐที่เหลือให้เคซิก เพื่อหลีกเลี่ยงการแย่งคะแนนกันเองในกลุ่มต่อต้านทรัมป์
ครูซประกาศที่อินดีแอนาเมื่อวันจันทร์ (25) ว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงต้องเลือกระหว่างตนกับทรัมป์ นอกจากนั้น ด้วยความลำพองว่าอาจหยุดยั้งทรัมป์สำเร็จ วุฒิสมาชิกจากเทกซัสผู้นี้จึงเริ่มต้นสรรหาผู้ที่จะลงเลือกตั้งคู่กันในตำแหน่งรองประธานาธิบดีแล้ว โดยหนึ่งในรายชื่อที่ได้รับการเปิดเผยคือ แคร์ลี ฟิออรินา นักธุรกิจหญิงแถวหน้าที่เคยประกาศลงสมัครชิงทำเนียบขาว
ทั้งนี้ ผู้ชนะในรัฐอินดีแอนาจะได้ตัวแทนผู้ลงคะแนนทั้งหมด ดังนั้น หากทำให้ทรัมป์แพ้ในรัฐนี้ ก็อาจลิดรอนโอกาสที่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ผู้นี้จะได้ตัวแทนผู้ลงคะแนนเกินกึ่งหนึ่ง ก่อนถึงการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันที่เมืองคลิฟแลนด์เดือนกรกฎาคม โดยตามกฎกติกาของรีพับลิกันนั้น ในการประชุมใหญ่ ตัวแทนผู้ลงคะแนนจะต้องยึดมั่นเลือกแคนดิเคตคนเดิมของตนเฉพาะในรอบแรก ถ้าในรอบดังกล่าวไม่มีใครที่ได้เสียงเกินครึ่งชนะไปแบบเด็ดขาด ในรอบต่อๆ ไป ตัวแทนผู้ลงคะแนนก็อาจเปลี่ยนใจไปเลือกแคนดิเดตคนอื่นๆ
สำหรับทางด้านเดโมแครตนั้น มีแนวโน้มอย่างมากที่คลินตันจะกวาดชัยชนะเรียบทั้ง 5 รัฐ หรืออย่างน้อยได้ชัยชนะในรัฐส่วนใหญ่ ซึ่งอาจทำให้ความหวังของแซนเดอร์สริบหรี่ลงทุกที
กระนั้น เจฟฟ์ วีเวอร์ ผู้จัดการแคมเปญหาเสียงของแซนเดอร์ส ประกาศว่า เม็ดเงินนับล้านดอลลาร์ยังหลั่งไหลให้การสนับสนุนวุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากรัฐเวอร์มอนต์ผู้นี้ บ่งชี้ว่า ผู้สนับสนุนจะยืนหยัดให้กำลังใจแซนเดอร์จนสุดทาง ซึ่งหมายถึงการประชุมใหญ่พรรคในเดือนกรกฏาคมที่รัฐเพนซิลเวเนีย
ทั้งนี้ การเลือกตั้งขั้นต้น 5 มลรัฐในวันอังคาร ทางฝ่ายเดโมแครตจะมีตัวแทนผู้ลงคะแนนให้แย่งชิงทั้งสิ้น 384 คน ซึ่งจะแบ่งสรรกันตามสัดส่วนคะแนนที่ผู้สมัครได้รับ ขณะที่หลังคว้าชัยชนะในรัฐนิวยอร์ก คลินตันมีตัวแทนผู้ลงคะแนนนำแซนเดอร์สกว่า 200 คน แต่หากรวมตัวแทนผู้ลงคะแนนพิเศษ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศจะมีตัวแทนผู้ลงคะแนนทั้งหมด 1,944 คน เทียบกับแซนเดอร์ส 1,192 คน หรือเท่ากับ 82% ของตัวแทนผู้ลงคะแนนที่ต้องการทั้งหมด 2,383 คนเพื่อได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดนัลด์ ทรัมป์ เดินเครื่องเต็มที่ในการเลือกตั้งขั้นต้น 5 มลรัฐในแถบชายฝั่งภาคตะวันออกของสหรัฐฯ ได้แก่ คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ แมริแลนด์ เพนซิลเวเนีย และโรดไอแลนด์ เพื่อให้ได้ตัวแทนผู้ลงคะแนนรวมแล้วเกิน 1,237 คนโดยเร็ว อันจะทำให้เขาได้รับเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พฤศจิกายนอย่างไร้ข้อโต้แย้ง
แต่ดูเหมือนคู่แข่งจะไม่ยอมให้ทรัมป์สมหวังง่ายๆ โดยเมื่อวันอาทิตย์ (24) 2 คู่แข่งในพรรคที่ยังเหลืออยู่ อันได้แก่ เท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกจากมลรัฐเทกซัส และจอห์น เคซิก ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ ได้ประกาศรวมพลังชั่วคราวเพื่อสกัดทรัมป์ ด้วยการงดแข่งขันกันเองใน 3 รัฐที่จะมีการจัดเลือกตั้งขั้นต้นเดือนหน้า โดยเคซิก จะงดหาเสียงในรัฐอินดีแอนา และหันไปทุ่มเททรัพยากรในมลรัฐนิวเม็กซิโกและออริกอนแทน เช่นเดียวกับครูซ ที่จะเดินหน้าเข้าหาผู้มีสิทธิ์ออกเสียงในอินดีแอนาเต็มสูบ และปล่อยสองรัฐที่เหลือให้เคซิก เพื่อหลีกเลี่ยงการแย่งคะแนนกันเองในกลุ่มต่อต้านทรัมป์
ครูซประกาศที่อินดีแอนาเมื่อวันจันทร์ (25) ว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงต้องเลือกระหว่างตนกับทรัมป์ นอกจากนั้น ด้วยความลำพองว่าอาจหยุดยั้งทรัมป์สำเร็จ วุฒิสมาชิกจากเทกซัสผู้นี้จึงเริ่มต้นสรรหาผู้ที่จะลงเลือกตั้งคู่กันในตำแหน่งรองประธานาธิบดีแล้ว โดยหนึ่งในรายชื่อที่ได้รับการเปิดเผยคือ แคร์ลี ฟิออรินา นักธุรกิจหญิงแถวหน้าที่เคยประกาศลงสมัครชิงทำเนียบขาว
ทั้งนี้ ผู้ชนะในรัฐอินดีแอนาจะได้ตัวแทนผู้ลงคะแนนทั้งหมด ดังนั้น หากทำให้ทรัมป์แพ้ในรัฐนี้ ก็อาจลิดรอนโอกาสที่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ผู้นี้จะได้ตัวแทนผู้ลงคะแนนเกินกึ่งหนึ่ง ก่อนถึงการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันที่เมืองคลิฟแลนด์เดือนกรกฎาคม โดยตามกฎกติกาของรีพับลิกันนั้น ในการประชุมใหญ่ ตัวแทนผู้ลงคะแนนจะต้องยึดมั่นเลือกแคนดิเคตคนเดิมของตนเฉพาะในรอบแรก ถ้าในรอบดังกล่าวไม่มีใครที่ได้เสียงเกินครึ่งชนะไปแบบเด็ดขาด ในรอบต่อๆ ไป ตัวแทนผู้ลงคะแนนก็อาจเปลี่ยนใจไปเลือกแคนดิเดตคนอื่นๆ
สำหรับทางด้านเดโมแครตนั้น มีแนวโน้มอย่างมากที่คลินตันจะกวาดชัยชนะเรียบทั้ง 5 รัฐ หรืออย่างน้อยได้ชัยชนะในรัฐส่วนใหญ่ ซึ่งอาจทำให้ความหวังของแซนเดอร์สริบหรี่ลงทุกที
กระนั้น เจฟฟ์ วีเวอร์ ผู้จัดการแคมเปญหาเสียงของแซนเดอร์ส ประกาศว่า เม็ดเงินนับล้านดอลลาร์ยังหลั่งไหลให้การสนับสนุนวุฒิสมาชิกสหรัฐฯจากรัฐเวอร์มอนต์ผู้นี้ บ่งชี้ว่า ผู้สนับสนุนจะยืนหยัดให้กำลังใจแซนเดอร์จนสุดทาง ซึ่งหมายถึงการประชุมใหญ่พรรคในเดือนกรกฏาคมที่รัฐเพนซิลเวเนีย
ทั้งนี้ การเลือกตั้งขั้นต้น 5 มลรัฐในวันอังคาร ทางฝ่ายเดโมแครตจะมีตัวแทนผู้ลงคะแนนให้แย่งชิงทั้งสิ้น 384 คน ซึ่งจะแบ่งสรรกันตามสัดส่วนคะแนนที่ผู้สมัครได้รับ ขณะที่หลังคว้าชัยชนะในรัฐนิวยอร์ก คลินตันมีตัวแทนผู้ลงคะแนนนำแซนเดอร์สกว่า 200 คน แต่หากรวมตัวแทนผู้ลงคะแนนพิเศษ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศจะมีตัวแทนผู้ลงคะแนนทั้งหมด 1,944 คน เทียบกับแซนเดอร์ส 1,192 คน หรือเท่ากับ 82% ของตัวแทนผู้ลงคะแนนที่ต้องการทั้งหมด 2,383 คนเพื่อได้รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ