พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เดินทางเป็นประธานการประชุม และมอบนโยบายโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ที่ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมีตัวแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคกลาง กว่า 3,878 คนเข้าร่วมรับฟัง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ซึ่งเป็นผู้ทำงานใกล้ชิดกับประชาชน ดังนั้น จะต้องร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ ซึ่งการขับเคลื่อนโครงการประชารัฐต้องเน้นเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับฐานราก ซึ่งงบประมาณที่มอบให้โครงการหมู่บ้านละไม่เกิน 200,000 บาท จะต้องนำไปใช้ในโครงการที่ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของคนในพื้นที่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ขอความร่วมมือกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ทำงานโดยคำนึงถึงความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยกล่าวว่า ขณะนี้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งการผลิตสินค้าแต่ละพื้นที่ควรส่งเสริมให้มีการใช้นวัตกรรม และสอดแทรกอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อสร้างความแตกต่าง และเพิ่มมูลค่าให้สินค้า
พร้อมกันนี้ ทุกคนต้องช่วยกันสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ แสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชน ซึ่งความเห็นต่างสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ต้องยึดเอากฎหมายเป็นหลัก ทุกคนต้องอยู่ร่วมกันภายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่มีละเว้น หรือเลือกปฏิบัติ ต้องช่วยกันทำบ้านเมืองให้สงบและไม่สร้างความขัดแย้ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การเข้ามาบริหารประเทศของ คสช. เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในประเทศ ต้องการทำงานเพื่อทุกคน แต่ไม่เคยคิดอยากมีอำนาจ ขอให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน และอย่าให้ใครมาบิดเบือน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ซึ่งเป็นผู้ทำงานใกล้ชิดกับประชาชน ดังนั้น จะต้องร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ ซึ่งการขับเคลื่อนโครงการประชารัฐต้องเน้นเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับฐานราก ซึ่งงบประมาณที่มอบให้โครงการหมู่บ้านละไม่เกิน 200,000 บาท จะต้องนำไปใช้ในโครงการที่ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของคนในพื้นที่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ขอความร่วมมือกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ทำงานโดยคำนึงถึงความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยกล่าวว่า ขณะนี้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งการผลิตสินค้าแต่ละพื้นที่ควรส่งเสริมให้มีการใช้นวัตกรรม และสอดแทรกอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อสร้างความแตกต่าง และเพิ่มมูลค่าให้สินค้า
พร้อมกันนี้ ทุกคนต้องช่วยกันสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ แสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชน ซึ่งความเห็นต่างสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ต้องยึดเอากฎหมายเป็นหลัก ทุกคนต้องอยู่ร่วมกันภายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่มีละเว้น หรือเลือกปฏิบัติ ต้องช่วยกันทำบ้านเมืองให้สงบและไม่สร้างความขัดแย้ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การเข้ามาบริหารประเทศของ คสช. เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในประเทศ ต้องการทำงานเพื่อทุกคน แต่ไม่เคยคิดอยากมีอำนาจ ขอให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน และอย่าให้ใครมาบิดเบือน