xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ยันตรวจไม่พบอุยกูร์ ย้าย “นักรบ” ไม่กระทบคุยสันติสุข รับระวังกระทบ OIC

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ประยุทธ์” ประชุม กพข.ขับเคลื่อน ศก. รับต้องปรับเพื่อให้ความเข้าใจตรงกัน ย้ำอย่าทำบ้านเมืองมีปัญหา เผยตรวจแล้วไม่มีอุยกูร์หัวรุนแรงเข้าไทย ขออย่าคุ้ย แจงย้าย “พล.ท.นักรบ” ไม่กระทบคุยสันติสุขใต้ เปลี่ยนตามวาระความเหมาะสม ยันรัฐจริงใจแก้ แต่เขาไม่เลิก รับในพื้นที่กลับต้องการเรียนหลักสูตรเดียว ย้ำต้องระวังไม่ให้กระทบโอไอซี

วันนี้ (21 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (กพข.) ครั้งที่ 1/2559 ทั้งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า การประชุมวันนี้เพื่อขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจดีขึ้น การขับเคลื่อนประเทศต้องได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจเอกชนทั้งหมด โดยที่ผ่านมาได้รับฟังปัญหาและติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินนโยบายซึ่งบางอย่างจะต้องปรับเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน โดยได้ฝากที่ประชุมไปแล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลทำทุกอย่างแต่ขออย่าทำให้บ้านเมืองมีปัญหา หากบ้านเมืองมีความสงบก็จะได้ทำงานเพื่อพัฒนาประเทศได้ การเมือง ความขัดแย้ง ต้องว่าเป็นไปตามข้อกฎหมาย หากเอาทุกอย่างมาเกี่ยวเนื่องกันก็จะยุ่ง ไม่จบสิ้น ขอให้เอาสิ่งดีๆ มาว่ากัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีหน่วยงานด้านความมั่นคงประเทศสิงคโปร์แจ้งเตือนมายังฝ่ายความมั่นคงของไทย ให้เฝ้าระวังชาวอุยกูร์หัวรุนแรง 3 คนที่อาจจะเดินทางเข้าไทยว่า “ไม่มี เขาตรวจสอบแล้ว มันไม่มีก็ไม่มี อยากไปคุ้ยให้มีก็เอาสิ เขาบอกไม่มีก็ต้องจบ จะไปคุ้ยมาทำไม หรือมีแล้วจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ เจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ คนเป็นหมื่น แสน ล้าน เข้ามาในประเทศไทย เขาตรวจสอบทำตามกฎหมายด้วยกรรมาวิธีทั้งหมด เมื่อไม่เจอ ก็จะหาให้เจอจนได้ หามาทำไม หาให้มีเรื่องหรือเปล่า ผมไม่ได้ปกปิด ก็เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มี”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีคำสั่งย้าย พล.ท.นักรบ บุญบัวทอง รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติการที่ 5 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร (รอง ผอ.ศปป.5) ซึ่งมีผลทำให้หลุดจากการการเป็นเลขานุการคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เป็นการสลับสับเปลี่ยนกันบ้างเท่านั้นเอง ไม่มีผลกระทบใดต่อการพูดคุยสันติสุข เพราะใครก็ทำแทนได้ เป็นการปรับเปลี่ยนตามวาระ เพราะ พล.ท.นักรบอยู่มาหลายปีแล้ว เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาใหม่ที่จะปรับเปลี่ยน ซึ่งต้องพิจารณาผู้ที่มีความเหมาะสมมาทดแทน ไม่ใช่ว่าคนนี้จะทำจนตาย

“แล้วทำไมนายกฯ การเมือง ไม่ให้ทำจนตาย ทำไมต้องเลือกตั้งทุก 4 ปี คิดง่ายแบบนี้ก็ไม่ต้องมาถามผม อย่ามาบอกว่ารัฐบาลไม่รู้ แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ถามว่าฝ่ายโน้นกับฝ่ายนี้เป็นอย่างไร เรามีความตั้งใจอย่างไร แล้วอีกฝ่ายตั้งใจอย่างไร ก็ไปดูสิ ที่ทำทุกวันนี้เราใช้อาวุธก่อนหรือเปล่า ทำไมไม่ช่วยเราตรงนี้ ไม่เข้าใจ พูดแต่สิ่งทำเสียหาย เกิดผลเสียในการแก้ไขปัญหา ไม่เกิดประโยชน์ การเจรจาพูดคุยแล้วเขารับผิดชอบไหม แล้วที่ยื่นข้อเสนอมาท่านรับได้ไหมละ มันก็ไม่ได้ทั้งคู่ รัฐมีความจริงใจแก้ไขปัญหา พร้อมเข้าสู่กระบวนการ แล้วเขาเลิกไหมละ เขาก็กดดันผ่านสื่อ แล้วมากดดันผมและรัฐบาล ไม่เห็นได้อะไรขึ้นมา ท่านรู้ไหมภาคใต้คนเขาอยู่กับยังไง สังคมเมือง ชนบทเขาต่างจากกรุงเทพฯ ไหม สวนยางห่างกันแล้วมันเปลี่ยวไหม จะเอาทหารมายืนทุกเส้นทาง ทุกจุดได้ไหม การแก้ไขปัญหาใช่คิดเองตอบเอง”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการเจรจาสุขติสุขต้องทำไปตามแผน ซึ่งจะต้องพูดคุยกันต่อไป โดยรัฐทำหน้าที่ดูแลชีวิตและทรัพย์สิน พัฒนาพื้นที่ต่อไป สร้างการเรียนรู้ และการศึกษา ซึ่งกระทรวงศึกษาได้ลงพื้นแล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการให้เรียนทั้ง 2 หลักสูตร แต่ในพื้นที่กลับต้องการเรียนหลักสูตรเดียว มีการขอเงินอุดหนุนเพื่อสอนศาลนาเพียงอย่างเดียว ถามว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะการเรียนต่อในหลักสูตรของรัฐนั้นเรียนฟรีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาวันนี้ต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบต่อองค์กรระหว่างประเทศ เช่น โอไอซี ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น