พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงการรับสมัครนักบินหญิง หลังจากหมดเขตวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า มีผู้มาสมัครทั้งหมด 8 คน ซึ่งถือว่ามากเกินเป้าที่วางไว้ สำหรับโครงการปีแรก เนื่องจากยังไม่ค่อยประชาสัมพันธ์ อีกทั้งผู้หญิงที่เรียนด้านการบินก็มีน้อย
หลังจากนี้จะเข้าสู่การทดสอบภาควิชาการเพื่อที่จะรับพลเรือนเข้ามาบรรจุเป็นข้าราชการกองทัพอากาศ โดยจะมีการตรวจโรค สอบสัมภาษณ์ และทดสอบสมรรถนะของร่างกาย คาดว่าวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ จะทราบว่ามีผู้ผ่านคุณสมบัติครบกี่คน หลังจากนั้นจะเป็นการฝึกทางทหาร ใช้เวลารวม 3 เดือน ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ถึงต้นเดือนสิงหาคม จะได้รับการติดยศเป็นเรืออากาศตรีหญิง บรรจุเข้ารับราชการในกองบิน 6 กองบิน 46 และกองบิน 7 ทั้งนี้ สัญญาเบื้องต้นจะไม่ให้นักบินหญิงที่ได้รับการบรรจุลาออกจากกองทัพภายใน 3 ปี ส่วนการรับนักบินหญิงเครื่องบินขับไล่เป็นเรื่องอนาคต ซึ่งต่างประเทศก็ต้องเริ่มจากนักบินลำเลียงก่อน
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงวิธีแก้ปัญหานักบินชายลาออกไปสายการบินพาณิชย์ ว่า คงพยายามให้ภูมิใจในความเป็นนักบินของกองทัพที่ทำงานเพื่อชาติ เพื่อประชาชน
หลังจากนี้จะเข้าสู่การทดสอบภาควิชาการเพื่อที่จะรับพลเรือนเข้ามาบรรจุเป็นข้าราชการกองทัพอากาศ โดยจะมีการตรวจโรค สอบสัมภาษณ์ และทดสอบสมรรถนะของร่างกาย คาดว่าวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ จะทราบว่ามีผู้ผ่านคุณสมบัติครบกี่คน หลังจากนั้นจะเป็นการฝึกทางทหาร ใช้เวลารวม 3 เดือน ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ถึงต้นเดือนสิงหาคม จะได้รับการติดยศเป็นเรืออากาศตรีหญิง บรรจุเข้ารับราชการในกองบิน 6 กองบิน 46 และกองบิน 7 ทั้งนี้ สัญญาเบื้องต้นจะไม่ให้นักบินหญิงที่ได้รับการบรรจุลาออกจากกองทัพภายใน 3 ปี ส่วนการรับนักบินหญิงเครื่องบินขับไล่เป็นเรื่องอนาคต ซึ่งต่างประเทศก็ต้องเริ่มจากนักบินลำเลียงก่อน
ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงวิธีแก้ปัญหานักบินชายลาออกไปสายการบินพาณิชย์ ว่า คงพยายามให้ภูมิใจในความเป็นนักบินของกองทัพที่ทำงานเพื่อชาติ เพื่อประชาชน