เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (27 ก.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ดอนเมือง พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นประธานพิธีประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถในการบินกองทัพอากาศ และมอบประกาศนียบัตรนักบินประจำกองแก่ศิษย์การบินฝ่ายยุทธการ ฝูงบิน 601กองบิน 6 รุ่นที่ 1 ซึ่งเป็นนักบินหญิงกองทัพอากาศ จำนวน 2 คน ได้แก่ ร.ต.หญิง ชลนิสา สุภาวรรณพงศ์ และ ร.ต.หญิง สิรีธร ลาวัณย์เสถียร
ทั้งนี้กองทัพอากาศ ได้บรรจุนายทหารสัญญาบัตรหญิงเหล่านักบินโดยได้คัดเลือกจากบุคคลพลเรือนที่มีใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรี (CPL) มาแล้ว จำนวน 2 คน จากนั้นได้เข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติม เพื่อให้นักบินหญิงทั้ง 2 คน มีคุณสมบัติและมาตรฐานตามที่กองทัพอากาศกำหนด
พล.อ.อ.ตรีทศ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีในความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจกับนักบินหญิงทั้ง 2 คน เพราะถือเป็นครั้งแรกที่กองทัพอากาศมีนักบินหญิงเป็นทรัพยากรบุคลลที่ทรงคุณค่า มีภารกิจสำคัญในการปกป้องอธิปไตย และความมั่นคงของประเทศ ขอให้ใช้ความรู้ความสามารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและทรัพย์สินของทางราชการ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่และพัฒนาศักยภาพของตนเองให้เท่าทันเทคโนโลยีที่ทันสมัย ยึดมั่นคำสัตย์ปฏิญาณตนให้สมศักดิ์ศรีเกียรติยศของนักบินเพื่อพัฒนากองทัพอากาศและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
"ขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่อนุมัติโครงการนำร่องนักบินหญิงของกองทัพอากาศ เป็นความภาคภูมิใจของกองทัพ โดยนักบินหญิง 2 คนนี้ จะมาปฏิบัติภารกิจบินเครื่องบินลำเลียงแบบ ซี-130 ประจำการที่ฝูงบิน 601 กองบิน 6 ทำหน้าที่เคียงบ่าเคียงไหลกับนักบินชาย ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะในการฝึกบินเครื่องบินลำเลียงแบบ ซี-130 โดยเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยนักบินที่ 1 ก่อนที่จะขยับเป็นนักบินที่ 1 ต่อไป เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ และมาตรฐาน ปฏิบัติภารกิจได้เหมือนกับนักบินชาย สำหรับเส้นทางการรับราชการของนักบินหญิงก็เหมือนกับนักบินชาย" พล.อ.อ.ตรีทศ กล่าว
เมื่อถามว่า ในอนาคตนักบินหญิง 2 คน จะเปลี่ยนไปบินเครื่องบินแบบอื่น เช่น เครื่องบินขับไล่ได้หรือไม่ พล.อ.อ.ตรีทศ กล่าวว่า ก็อาจจะเปลี่ยนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ว่าฝูงบินใดต้องการนักบินเพิ่มเติม ก็สามารถสลับได้ ส่วนนักบินหญิงที่เหลืออีก 3 คน กำลังทำการฝึกบินอยู่ คาดว่าจะฝึกเสร็จในปีหน้า หากฝึกบินจบ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละฝูงบิน
อย่างไรก็ตามในปีหน้าทางกองทัพอากาศก็จะเปิดรับสมัครนักบินหญิงอีกเป็นครั้งที่ 2 จำนวน 5 คน ตามโครงการนำร่องนักบินหญิง 3 ปี จากนั้นก็จะมีการศึกษา และประเมินผลต่อไป ซึ่งแนวโน้มอาจมีความต้องการนักบินมากขึ้น เพราะขณะนี้มีเครื่องบินเข้าประจำการในกองทัพอากาศมากขึ้น
ทั้งนี้กองทัพอากาศ ได้บรรจุนายทหารสัญญาบัตรหญิงเหล่านักบินโดยได้คัดเลือกจากบุคคลพลเรือนที่มีใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรี (CPL) มาแล้ว จำนวน 2 คน จากนั้นได้เข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติม เพื่อให้นักบินหญิงทั้ง 2 คน มีคุณสมบัติและมาตรฐานตามที่กองทัพอากาศกำหนด
พล.อ.อ.ตรีทศ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีในความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจกับนักบินหญิงทั้ง 2 คน เพราะถือเป็นครั้งแรกที่กองทัพอากาศมีนักบินหญิงเป็นทรัพยากรบุคลลที่ทรงคุณค่า มีภารกิจสำคัญในการปกป้องอธิปไตย และความมั่นคงของประเทศ ขอให้ใช้ความรู้ความสามารถปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและทรัพย์สินของทางราชการ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่และพัฒนาศักยภาพของตนเองให้เท่าทันเทคโนโลยีที่ทันสมัย ยึดมั่นคำสัตย์ปฏิญาณตนให้สมศักดิ์ศรีเกียรติยศของนักบินเพื่อพัฒนากองทัพอากาศและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
"ขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่อนุมัติโครงการนำร่องนักบินหญิงของกองทัพอากาศ เป็นความภาคภูมิใจของกองทัพ โดยนักบินหญิง 2 คนนี้ จะมาปฏิบัติภารกิจบินเครื่องบินลำเลียงแบบ ซี-130 ประจำการที่ฝูงบิน 601 กองบิน 6 ทำหน้าที่เคียงบ่าเคียงไหลกับนักบินชาย ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะในการฝึกบินเครื่องบินลำเลียงแบบ ซี-130 โดยเริ่มจากการเป็นผู้ช่วยนักบินที่ 1 ก่อนที่จะขยับเป็นนักบินที่ 1 ต่อไป เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ และมาตรฐาน ปฏิบัติภารกิจได้เหมือนกับนักบินชาย สำหรับเส้นทางการรับราชการของนักบินหญิงก็เหมือนกับนักบินชาย" พล.อ.อ.ตรีทศ กล่าว
เมื่อถามว่า ในอนาคตนักบินหญิง 2 คน จะเปลี่ยนไปบินเครื่องบินแบบอื่น เช่น เครื่องบินขับไล่ได้หรือไม่ พล.อ.อ.ตรีทศ กล่าวว่า ก็อาจจะเปลี่ยนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ว่าฝูงบินใดต้องการนักบินเพิ่มเติม ก็สามารถสลับได้ ส่วนนักบินหญิงที่เหลืออีก 3 คน กำลังทำการฝึกบินอยู่ คาดว่าจะฝึกเสร็จในปีหน้า หากฝึกบินจบ ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละฝูงบิน
อย่างไรก็ตามในปีหน้าทางกองทัพอากาศก็จะเปิดรับสมัครนักบินหญิงอีกเป็นครั้งที่ 2 จำนวน 5 คน ตามโครงการนำร่องนักบินหญิง 3 ปี จากนั้นก็จะมีการศึกษา และประเมินผลต่อไป ซึ่งแนวโน้มอาจมีความต้องการนักบินมากขึ้น เพราะขณะนี้มีเครื่องบินเข้าประจำการในกองทัพอากาศมากขึ้น