กรณีที่ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ “มิน” ดารานักแสดงชื่อดังช่อง 7 โพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่าไปชอปปิ้งกระเป๋า “แอร์เมส” (Hermes) จนเกิดกระแสบนโลกออนไลน์ว่าการนำเข้ากระเป๋าแบรนด์หรูจากต่างประเทศมีการเสียภาษีหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า กรมศุลกากรได้มีการโทรศัพท์ไปหาผู้จัดการดาราของ น.ส.พีชญาเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และอยากให้มาชี้แจง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการชี้แจงหรือติดต่อกลับ ดังนั้นเตรียมทำหนังสือไปถึง น.ส.พีชญาเพื่อเชิญมาสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น รวมถึงสอบถามถึงการนำเข้าด้วย เพราะการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีการนำเข้าหรือเสียภาษีจากกระเป๋าดังกล่าว
ล่าสุด นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรสนามบินดอนเมืองทำหนังสือเชิญนางเอกสาวคนดังกล่าวมาให้ข้อมูลแล้ว โดยกรมศุลกากรจะตรวจสอบว่าภาพกระเป๋าแบรนด์ดังเสียภาษีศุลกากรถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าลักลอบนำเข้ามายังไม่มีการเสียภาษีให้ถูกต้องก็จะต้องเสียค่าปรับ และภาษีนำเข้าให้ครบถ้วน ยืนยันไม่เลือกปฏิบัติแน่นอน
ปัจจุบันภาษีศุลกากรจะเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าหากพบว่าลักลอบนำเข้ามาจะต้องเสียค่าปรับ และเสียภาษีนำเข้าโดยจะใช้มูลค่าการนำเข้าหรือจำนวนของสินค้าเป็นฐานคำนวณตามหลักเกณฑ์ ราคาซีไอเอฟที่ประกอบด้วย ราคาของสินค้ารวมกับค่าขนส่ง และเบี้ยประกันซึ่งมีอัตราอยู่ที่ 60% เมื่อได้ภาษีตามมูลค่าแล้วจะต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต 7% หากคำนวณบนพื้นฐานของราคา 1 ล้านบาทจะต้องเสียค่าปรับ และภาษีอยู่ที่ 670,000 บาท
รายงานข่าวแจ้งว่า กรมศุลกากรได้มีการโทรศัพท์ไปหาผู้จัดการดาราของ น.ส.พีชญาเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และอยากให้มาชี้แจง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการชี้แจงหรือติดต่อกลับ ดังนั้นเตรียมทำหนังสือไปถึง น.ส.พีชญาเพื่อเชิญมาสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น รวมถึงสอบถามถึงการนำเข้าด้วย เพราะการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีการนำเข้าหรือเสียภาษีจากกระเป๋าดังกล่าว
ล่าสุด นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรสนามบินดอนเมืองทำหนังสือเชิญนางเอกสาวคนดังกล่าวมาให้ข้อมูลแล้ว โดยกรมศุลกากรจะตรวจสอบว่าภาพกระเป๋าแบรนด์ดังเสียภาษีศุลกากรถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าลักลอบนำเข้ามายังไม่มีการเสียภาษีให้ถูกต้องก็จะต้องเสียค่าปรับ และภาษีนำเข้าให้ครบถ้วน ยืนยันไม่เลือกปฏิบัติแน่นอน
ปัจจุบันภาษีศุลกากรจะเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าหากพบว่าลักลอบนำเข้ามาจะต้องเสียค่าปรับ และเสียภาษีนำเข้าโดยจะใช้มูลค่าการนำเข้าหรือจำนวนของสินค้าเป็นฐานคำนวณตามหลักเกณฑ์ ราคาซีไอเอฟที่ประกอบด้วย ราคาของสินค้ารวมกับค่าขนส่ง และเบี้ยประกันซึ่งมีอัตราอยู่ที่ 60% เมื่อได้ภาษีตามมูลค่าแล้วจะต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต 7% หากคำนวณบนพื้นฐานของราคา 1 ล้านบาทจะต้องเสียค่าปรับ และภาษีอยู่ที่ 670,000 บาท
