นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ พร้อมด้วย นายสมเดช ลีลามโนธรรม นักโบราณคดีสำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีที่มีชาวบ้านใน ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ลงไปหาปลาบริเวณสะพานข้ามลำน้ำมูล หมู่บ้านมะดันรัฐ หมู่ 10 ต.ท่าช้าง และพบซากเรือโบราณขนาดใหญ่จมอยู่ใต้น้ำ ก่อนที่ชาวบ้านจะพากันกู้ซากเรือโบราณขึ้นมาไว้ริมชายฝั่ง เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจพากันแห่มาดูและกราบไหว้เป็นจำนวนมากนั้น ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบซากเรือโบราณดังกล่าว เพื่อประเมินอายุ และความเป็นมาของเรือแล้ว ซึ่งจากการวัดและตรวจสอบสภาพของเรือ พบว่า มีความยาวประมาณ 13.5 เมตร กว้างประมาณ 3 เมตร ทำจากไม้เนื้อแข็ง และคาดว่าเป็นไม้ตะเคียน ลักษณะของเรือคล้ายเรือขนถ่ายสินค้า เนื่องจากมีท้องเรือกว้างและลึก
ส่วนความเป็นมานั้น คาดว่าจะเป็นเรือกลไฟขนถ่ายสินค้ามาจากอุบลราชธานี มีอายุระหว่าง พ.ศ.2425 - 2436 หรือประมาณ 123 - 134 ปี อยู่ในสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากขณะนั้นพ่อค้าชาวจังหวัดอุบลราชธานี มักจะ
เดินทางขนสินค้ามาทางลำน้ำมูล เข้ามาเทียบเรือที่บริเวณลำน้ำมูล ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นท่าเรือเก่าแก่ และเป็นจุดขนถ่ายสินค้าขึ้นเกวียน ขนส่งไปต่อรถไฟในตัวเมืองนครราชสีมา แต่ทั้งนี้ ทางกรมศิลปากรจะสรุปผลการตรวจสอบครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป
ส่วนความเป็นมานั้น คาดว่าจะเป็นเรือกลไฟขนถ่ายสินค้ามาจากอุบลราชธานี มีอายุระหว่าง พ.ศ.2425 - 2436 หรือประมาณ 123 - 134 ปี อยู่ในสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากขณะนั้นพ่อค้าชาวจังหวัดอุบลราชธานี มักจะ
เดินทางขนสินค้ามาทางลำน้ำมูล เข้ามาเทียบเรือที่บริเวณลำน้ำมูล ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นท่าเรือเก่าแก่ และเป็นจุดขนถ่ายสินค้าขึ้นเกวียน ขนส่งไปต่อรถไฟในตัวเมืองนครราชสีมา แต่ทั้งนี้ ทางกรมศิลปากรจะสรุปผลการตรวจสอบครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป