น.พ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ โฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้อากาศในประเทศไทยร้อนอบอ้าว โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน บางแห่งอุณหภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส เกินอุณหภูมิปกติของร่างกายซึ่งอยู่ที่ระดับ 37 องศาเซลเซียส อาจส่งผลให้เจ็บป่วย เนื่องจากเกิดการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง และต่อมเหงื่อมากขึ้น จึงขอให้ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย โดยเฉพาะน้ำเปล่า อุณหภูมิปกติ ผู้ที่ทำงานกลางแจ้งหรือออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน ส่วนผู้ที่ทำงานในที่ร่ม ควรดื่มอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว โดยวิธีสังเกตว่าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอหรือไม่นั้น สังเกตจากสีของน้ำปัสสาวะ หากมีสีเหลืองจางแสดงว่าได้รับน้ำเพียงพอ แต่ถ้าปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มคล้ายน้ำชาและปัสสาวะน้อย แสดงว่าได้รับน้ำไม่เพียงพอจะต้องดื่มน้ำให้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมทุกชนิด ไม่ว่าจะใส่น้ำแข็งหรือไม่ใส่ก็ตาม เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดฝอยที่อยู่บริเวณใต้ผิวหนังขยายตัวมากขึ้น มีผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ ยิ่งหากมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ ยังไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมทุกชนิด ไม่ว่าจะใส่น้ำแข็งหรือไม่ใส่ก็ตาม เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดฝอยที่อยู่บริเวณใต้ผิวหนังขยายตัวมากขึ้น มีผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่สูงกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้ ยิ่งหากมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก