จากกรณีพบศพชาวต่างชาติในกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ภายในคลองโอ่งอ่าง ใกล้แยกสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กทม.เมื่อวันที่ 3 เม.ย. จากนั้นแพทย์นิติเวชฯ โรงพยาบาลตำรวจ ทำการผ่าชันสูตรพบยาไอซ์บรรจุใส่พลาสติกจำนวน 58 ลูก อยู่ภายในตัวศพ กระทั่งวานนี้ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีสามารถระบุตัวผู้ตายได้ทราบชื่อนายอูเกน เทียริ่ง อายุ 46 ปี ชาวภูฏาน เดินทางมาเช่าพักกับพวกอีก 5 คน ภายในโรงแรมย่านวังบูรพา ก่อนจะเสียชีวิตจากพลาสติกที่บรรจุยาเสพติดแตกในท้อง ก่อนเพื่อนร่วมขบวนการอีก 2 รายจะนำศพไปทิ้งยังคลองโอ่งอ่าง จากบนสะพานดำรงสถิต ถนนเจริญกรุง กทม. เมื่อกลางดึกของวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมาแล้วหลบหนีไป
ความคืบหน้าล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ได้เดินทางไปขออำนาจศาลอาญา อนุมัติออก หมายจับศาลอาญา ที่699/2559 ลงวันที่ 8 เมษายน 2559 ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย และร่วมกันเคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ โดยไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย แก่ นายมาโนจ คูมาร์ ดากา อายุ 38 ปี สัญชาติอินเดีย และหมายจับศาลอาญา ที่700/2559 ลงวันที่ 8 เมษายน 2559 ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย และร่วมกันเคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ โดยไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย แก่ นายทานดิน วังชุก อายุ 31 ปี สัญชาติภูฏาน
ทั้งนี้ตำรวจชุดสืบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นลงมือนำศพผู้ตายยัดใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ แล้วไปโยนทิ้งยังสะพานดำรงสถิต ถนนเจริญกรุง ก่อนขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป เชื่อว่าได้หลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไปแล้วตั้งแต่ เมื่อกลางดึกของวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางตำรวจจะต้องทำการสืบสวนหาเบาะแสว่าคนร้ายกลุ่มนี้เดินทางหลบหนีไปยังประเทศใด ก่อนจะประสานพนักงานอัยการเพื่อติดต่อทำเรื่องขอผู้ร้ายแดน หากประเทศนั้นมีสนธิสัญญาดังกล่าว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ความคืบหน้าล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ได้เดินทางไปขออำนาจศาลอาญา อนุมัติออก หมายจับศาลอาญา ที่699/2559 ลงวันที่ 8 เมษายน 2559 ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย และร่วมกันเคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ โดยไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย แก่ นายมาโนจ คูมาร์ ดากา อายุ 38 ปี สัญชาติอินเดีย และหมายจับศาลอาญา ที่700/2559 ลงวันที่ 8 เมษายน 2559 ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย และร่วมกันเคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ โดยไม่มีเหตุอันสมควร และร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย แก่ นายทานดิน วังชุก อายุ 31 ปี สัญชาติภูฏาน
ทั้งนี้ตำรวจชุดสืบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นลงมือนำศพผู้ตายยัดใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ แล้วไปโยนทิ้งยังสะพานดำรงสถิต ถนนเจริญกรุง ก่อนขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป เชื่อว่าได้หลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไปแล้วตั้งแต่ เมื่อกลางดึกของวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางตำรวจจะต้องทำการสืบสวนหาเบาะแสว่าคนร้ายกลุ่มนี้เดินทางหลบหนีไปยังประเทศใด ก่อนจะประสานพนักงานอัยการเพื่อติดต่อทำเรื่องขอผู้ร้ายแดน หากประเทศนั้นมีสนธิสัญญาดังกล่าว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป