MGR Online - “ศานิตย์” ประชุมคืบหน้าศพนิรนามยัดกระเป๋าลอยคลองโอ่งอ่าง ระบุเป็นเครือข่ายขนยาเสพติดเข้าไทย มีวิธีการกลืนยาลงท้องแต่เกิดข้อผิดพลาดจนเสียชีวิต ก่อนคนร่วมขบวนการนำศพห่อกระเป๋าไปทิ้ง เชื่อกลุ่มคนร้ายยังกบดานในไทย
วันนี้ (6 เม.ย.) เวลา 10.30 น. ที่ ศปก.สน.สำราญราษฎร์ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. กล่าวก่อนการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีพบศพชายนิรนามถูกยัดกระเป๋าเดินทางสีดำลอยอยู่ในคลองโอ่งอ่าง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า การสืบสวนขณะนี้เจ้าหน้ามีความชัดเจนในเรื่องสัญชาติของผู้ตายซึ่งมีตัวเลือกอยู่ในใจเพียงสองสัญชาติเท่านั้นแต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด อีกทั้งพอจะทราบถึงกลุ่มหรือเครือข่ายที่มีการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยโดยการกลืนยาลงท้อง หรือบอดี้แพกเกอร์ และคาดว่าผู้ตายน่าจะเดินทางเข้ามาโดยสายการบินแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะมีการกินยาถ่ายภายในห้องพัก แต่เกิดปัญหาเนื่องจากสิ่งห่อหุ้มยาเสพติดเกิดการเสียหาย ทำให้ยาเสพติดกระจายในร่างกายเกินปริมาณจะรับไหวจนเสียชีวิต จากนั้นจะมีผู้ร่วมขบวนการที่เชื่อว่ามีมากกว่า 2 คนไปหาซื้อกระเป๋าเพื่อนำมาบรรจุศพไปทิ้งอำพรางภายในพื้นที่ดังกล่าว
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า การประชุมในวันนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมีการนำภาพถ่ายของชาวเอเชียกลางที่ผ่านเข้าออกทางด่านตรวจคนเข้าเมืองมาเปรียบเทียบกับรูปพรรณลักษณะของผู้ตาย รวมทั้งติดตามขยายผลเส้นทางการหลบหนีและกล้องวงจรปิด รวมถึงผู้ร่วมขบวนการที่เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สอบปากคำพยานซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายกระเป๋าในย่านวังบูรพา และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้เห็นเหตุการณ์แล้ว
ต่อมาเวลา 12.30 น. ภายหลังประชุมความคืบหน้าคดี 1 ชั่วโมง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากทีมสืบสวนแล้วในทุกส่วนต่างมีข้อมูลที่ตรงกันและสามารถพุ่งเป้าเป็นรายบุคคลได้แล้ว2-3ราย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการพิสูจน์ทราบว่าบุคคลดังกล่าวยังอยู่ในประเทศหรือไม่ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในแต่ละจุดมีความเชื่อมโยงกัน มีการนำภาพเปรียบเทียบแต่ไม่ขอเปิดเผยถึงรายละเอียด ทั้งนี้จุดซื้อกระเป๋าและจุดทิ้งศพคาดว่าอยู่ในระแวงเดียวกัน
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกกองบังคับการได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเกสเฮ้าท์แล้วแต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ อยากฝากประชาสัมพันธ์ไปยังรถโดยสาร อาทิ รถสามล้อเครื่อง รถแท็กซี่ หากพบบุคคลที่ไม่ได้มีลักษณะคล้ายคนไทยและมีการแบกหิ้วถุงหรือกระเป๋า ให้มาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สำราญราษฎร์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง