นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณี นางประนอม แดงสุภา ผู้ก่อตั้งธุรกิจน้ำพริกเผาแม่ประนอม ในนามบริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าถูกบุตรสาวคนโตฮุบกิจการ ซึ่งในเอกสารที่มีการมายื่นร้องเรียนนั้น มีการระบุว่ามีการใช้เงินและบุคคลเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมในศาลว่า กรณีที่มีการใช้ดุลยพินิจพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนนั้น ทางสำนักงานศาลยุติธรรมไม่อาจก้าวล่วงได้ แต่กรณีที่มีการกล่าวหาว่าศาลมีพฤติการณ์ที่เป็นไปในทางมิชอบ หรือเรียกรับผลประโยชน์ต่างๆ สามารถร้องเรียนมาที่สำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (กต.) ได้
ส่วนการที่นางประนอมนำเรื่องการกล่าวหาดังกล่าวไปร้องเรียนที่ศูนย์บริการประชาชนเกี่ยวกับพฤติการณ์การปฎิบัติหน้าที่ของศาล จะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลหรือไม่นั้น นายสืบพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิของคู่ความที่สามารถดำเนินการได้โดยชอบ ไม่ได้เกี่ยวกับการละเมิดอำนาจศาลแต่อย่างใด ประชาชนมีสิทธิจะร้องเรียนได้ แต่ถ้าร้องเรียนช่องทางที่ผิดก็แค่ให้มาร้องเรียนช่องที่ถูก ในกรณีที่อ้างว่ามีการกล่าวหาในเรื่องการปฎิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา แต่ต้องเป็นการกล่าวหาอย่างมีพยานหลักฐาน ไม่ใช่การกล่าวหาแบบลอยๆ
ส่วนการที่นางประนอมนำเรื่องการกล่าวหาดังกล่าวไปร้องเรียนที่ศูนย์บริการประชาชนเกี่ยวกับพฤติการณ์การปฎิบัติหน้าที่ของศาล จะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลหรือไม่นั้น นายสืบพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิของคู่ความที่สามารถดำเนินการได้โดยชอบ ไม่ได้เกี่ยวกับการละเมิดอำนาจศาลแต่อย่างใด ประชาชนมีสิทธิจะร้องเรียนได้ แต่ถ้าร้องเรียนช่องทางที่ผิดก็แค่ให้มาร้องเรียนช่องที่ถูก ในกรณีที่อ้างว่ามีการกล่าวหาในเรื่องการปฎิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา แต่ต้องเป็นการกล่าวหาอย่างมีพยานหลักฐาน ไม่ใช่การกล่าวหาแบบลอยๆ