นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้เกิดความชัดเจนและมีกฎหมายรองรับ โดยมีวัตถุประสงค์ในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศ การสนับสนุนให้เชื้อเพลิงชีวภาพมีส่วนต่างราคาที่สามารถแข่งขันกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ การบรรเทาผลกระทบจากการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับผู้มีรายได้น้อย การสนับสนุนการลงทุนการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง และการสนับสนุนลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันเชื้อเพลิงในกิจการของรัฐ
ทั้งนี้ การร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว อยู่ระหว่างการนำเสนอต่อ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาความเหมาะสม ก่อนนำเสนอร่างต่อ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อทำการออกเป็นกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ จากการที่ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลก ปรับตัวเพิ่มจากเดือนก่อน 5 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้น ประกอบกับต้นทุนเฉลี่ยของการจัดหาก๊าซ LPG ณ โรงกลั่น ลดลง 4.8 สตางค์ต่อกิโลกรัม ส่งผลให้ที่ประชุม กบง. มีมติให้คงราคาขายปลีก ก๊าซ LPG ไว้ที่ 20.29 บาทต่อกิโลกรัม โดยจะมีการปรับลดในส่วนของการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงแทน
ทั้งนี้ การร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว อยู่ระหว่างการนำเสนอต่อ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาความเหมาะสม ก่อนนำเสนอร่างต่อ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อทำการออกเป็นกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ จากการที่ราคาก๊าซ LPG ตลาดโลก ปรับตัวเพิ่มจากเดือนก่อน 5 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้น ประกอบกับต้นทุนเฉลี่ยของการจัดหาก๊าซ LPG ณ โรงกลั่น ลดลง 4.8 สตางค์ต่อกิโลกรัม ส่งผลให้ที่ประชุม กบง. มีมติให้คงราคาขายปลีก ก๊าซ LPG ไว้ที่ 20.29 บาทต่อกิโลกรัม โดยจะมีการปรับลดในส่วนของการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงแทน