ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง รวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่พุ่งขึ้นมากที่สุดรอบ 7 เดือน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,943.90 จุด เพิ่มขึ้น 44.58 จุด หรือ +0.26% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,707.42 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด หรือ +0.09% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,993.40 จุด เพิ่มขึ้น 6.95 จุด หรือ +0.35%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นในกลุ่มพลังงานนั้น หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 26% หุ้นเซาเทิร์น เอนเนอร์จี ปรับขึ้น 18% หุ้นเอนซ์โค พุ่งขึ้น 14% หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ และหุ้นอาปาเช คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 5.6%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 278,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ก.พ. แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 52 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1970
ขณะที่ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่านั้น ปรับตัวลง 1,750 ราย สู่ระดับ 270,250 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2015
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2015 หลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 2 เดือน
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.พ.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่ผลการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรอาจจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 151,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,943.90 จุด เพิ่มขึ้น 44.58 จุด หรือ +0.26% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,707.42 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด หรือ +0.09% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,993.40 จุด เพิ่มขึ้น 6.95 จุด หรือ +0.35%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นในกลุ่มพลังงานนั้น หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 26% หุ้นเซาเทิร์น เอนเนอร์จี ปรับขึ้น 18% หุ้นเอนซ์โค พุ่งขึ้น 14% หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ และหุ้นอาปาเช คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 5.6%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 278,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ก.พ. แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 52 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1970
ขณะที่ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่านั้น ปรับตัวลง 1,750 ราย สู่ระดับ 270,250 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2015
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2015 หลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 2 เดือน
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.พ.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่ผลการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรอาจจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 151,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008