ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) ขานรับราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น และข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค.ที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 10 เดือน และข้อมูลแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่ง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,697.29 จุด พุ่งขึ้น 212.30 จุด หรือ +1.29% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,582.21 จุด เพิ่มขึ้น 39.60 จุด หรือ +0.87% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,951.70 จุด เพิ่มขึ้น 21.90 จุด หรือ +1.13%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนไหวในแดนบวกตั้งแต่ช่วงเปิดทำการ เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ฟื้นตัวขึ้นเกือบ 3% รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 4.9% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 10 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5%
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค.ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งนั้น สะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น และยังบ่งชี้แนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการผลิต
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 272,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.พ. แต่ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 51 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1970 และบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 1,250 ราย สู่ 272,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 1.9% ทำสถิติปิดบวกเป็นเวลา 3 วันในรอบ 4 วันทำการ ขณะที่หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 3.9% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.3%
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบดีดตัวขึ้น โดยหุ้นดาว เคมิคอลส์ และหุ้นดูปองท์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1.9% ขณะที่หุ้นซีเอฟ อินดัสทรีส์ โฮลดิงส์ ทะยานขึ้น 4.4%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวผันผวน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.44% หุ้นอินเทล คอร์ป ปรับขึ้น 1.4% แต่หุ้นฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ อ่อนแรงลง 0.3% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทชาร์ปยอมรับข้อเสนอซื้อกิจการจากฟ็อกซ์คอนน์ หรือฮอนไฮ พรีซิชั่น อินดัสทรี
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงตัวเลขประมาณการจีดีพีครั้งที่ 2 ประจำไตรมาส 4/2558, ข้อมูลรายได้-การบริโภคส่วนบุคคลเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,697.29 จุด พุ่งขึ้น 212.30 จุด หรือ +1.29% ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 4,582.21 จุด เพิ่มขึ้น 39.60 จุด หรือ +0.87% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 1,951.70 จุด เพิ่มขึ้น 21.90 จุด หรือ +1.13%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนไหวในแดนบวกตั้งแต่ช่วงเปิดทำการ เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ฟื้นตัวขึ้นเกือบ 3% รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 4.9% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 10 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5%
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค.ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งนั้น สะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น และยังบ่งชี้แนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการผลิต
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 272,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.พ. แต่ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 51 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1970 และบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 1,250 ราย สู่ 272,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 1.9% ทำสถิติปิดบวกเป็นเวลา 3 วันในรอบ 4 วันทำการ ขณะที่หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 3.9% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1.3%
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบดีดตัวขึ้น โดยหุ้นดาว เคมิคอลส์ และหุ้นดูปองท์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 1.9% ขณะที่หุ้นซีเอฟ อินดัสทรีส์ โฮลดิงส์ ทะยานขึ้น 4.4%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวผันผวน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.44% หุ้นอินเทล คอร์ป ปรับขึ้น 1.4% แต่หุ้นฟ็อกซ์คอนน์ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ อ่อนแรงลง 0.3% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทชาร์ปยอมรับข้อเสนอซื้อกิจการจากฟ็อกซ์คอนน์ หรือฮอนไฮ พรีซิชั่น อินดัสทรี
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงตัวเลขประมาณการจีดีพีครั้งที่ 2 ประจำไตรมาส 4/2558, ข้อมูลรายได้-การบริโภคส่วนบุคคลเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน