นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำ ว่า ในขณะนี้มีพื้นที่ประกาศภัยแล้ง 1,893 หมู่บ้าน ใน 12 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ พะเยา นครราชสีมา นครพนม มหาสารคาม บุรีรัมย์ กาญจนบุรี สระแก้ว เพชรบุรี สุโขทัย และนครสวรรค์ และมีพื้นที่น้ำเค็มรุก 1 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา
สำหรับน้ำในเขื่อนหลัก คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำพอใช้ คือร้อยละ 35 ,46, 38 และ 42 ตามลำดับ หากมีการบริหารจัดการที่ดี จะมีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและการรักษาระบบนิเวศได้ตลอดหน้าแล้งนี้ จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดน้ำและปลูกพืชใช้น้ำน้อย
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมความพร้อมในการปรับตัวให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า ด้านระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะเพิ่มระดับได้ในบางช่วงเวลา เช่น ต้นเดือนเมษายน จึงฝากประชาชนริมฝั่งโขงที่เพาะปลูกพืช หรือเลี้ยงปลาในบริเวณดังกล่าว เตรียมรับสถานการณ์น้ำโขงน้อย
สำหรับการช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนน้ำ กรมทรัพยากรน้ำได้สูบน้ำช่วยพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค 16 ล้านลูกบาศก์เมตร ประชาชนได้รับประโยชน์ 130,954 ครัวเรือน 498,532 คน ขณะเดียวกัน กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เร่งขุดเจาะน้ำบาดาลเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยติดต่อได้ทางโทรศัพท์สายด่วน Green Call 1310
สำหรับน้ำในเขื่อนหลัก คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำพอใช้ คือร้อยละ 35 ,46, 38 และ 42 ตามลำดับ หากมีการบริหารจัดการที่ดี จะมีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและการรักษาระบบนิเวศได้ตลอดหน้าแล้งนี้ จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดน้ำและปลูกพืชใช้น้ำน้อย
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมความพร้อมในการปรับตัวให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง
นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า ด้านระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะเพิ่มระดับได้ในบางช่วงเวลา เช่น ต้นเดือนเมษายน จึงฝากประชาชนริมฝั่งโขงที่เพาะปลูกพืช หรือเลี้ยงปลาในบริเวณดังกล่าว เตรียมรับสถานการณ์น้ำโขงน้อย
สำหรับการช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนน้ำ กรมทรัพยากรน้ำได้สูบน้ำช่วยพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค 16 ล้านลูกบาศก์เมตร ประชาชนได้รับประโยชน์ 130,954 ครัวเรือน 498,532 คน ขณะเดียวกัน กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เร่งขุดเจาะน้ำบาดาลเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยติดต่อได้ทางโทรศัพท์สายด่วน Green Call 1310