นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากปัญหาภัยแล้วที่เกิดขึ้น มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 13 จังหวัด 50 อำเภอ 254 ตำบล 2,407 หมู่บ้าน แยกเป็นภาคเหนือ 4 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ภาคกลาง 2 จังหวัด ภาคตะวันออก 1 จังหวัด พร้อมสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขุดเจาะบ่อบาดาลหรือบ่อน้ำตื้น 100 บ่อ เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำและสำรองน้ำไว้ใช้ช่วงหน้าแล้ง คาดว่าเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จทุกโครงการฯ จะมีปริมาตรน้ำเก็บกัก 294.58 ล้านลูกบาศก์เมตร ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 1.08 ล้านครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรกว่า 3.19 ล้านไร่
นอกจากนี้ ได้ขับเคลื่อนมาตรการจ้างงานสร้างรายได้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 27 จังหวัด วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 116,876,113 ล้านบาท ทั้งการจ้างแรงงาน เป่าล้างบ่อบาดาล ฝึกอบรมอาชีพ ขุดลอกแหล่งน้ำ และซ่อมแซมระบบประปา เพื่อส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้แก่ชุมชนที่ประสบภัย ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งในทุกมิติ ตลอดจนได้ดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งในจังหวัดที่มีพื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก 1,173 บ่อ
ทั้งนี้ ได้บูรณาการหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาภัยแล้งครอบคลุมทุกมิติอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ได้ขับเคลื่อนมาตรการจ้างงานสร้างรายได้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 27 จังหวัด วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 116,876,113 ล้านบาท ทั้งการจ้างแรงงาน เป่าล้างบ่อบาดาล ฝึกอบรมอาชีพ ขุดลอกแหล่งน้ำ และซ่อมแซมระบบประปา เพื่อส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้แก่ชุมชนที่ประสบภัย ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งในทุกมิติ ตลอดจนได้ดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งในจังหวัดที่มีพื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก 1,173 บ่อ
ทั้งนี้ ได้บูรณาการหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาภัยแล้งครอบคลุมทุกมิติอย่างยั่งยืน