นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นำคณะผู้เชี่ยวชาญสรุปวิเคราะห์การสำรวจสภาพที่เกิดเหตุไฟไหม้อาคารที่พักอาศัย ภายในซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 18 เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันศุกร์ (5ก.พ.) ที่ผ่านมา
นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า เจ้าของอาคารตั้งแต่ 4 ยูนิตขึ้นไป ต้องมีระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ ติดตั้งถังดับเพลิงแบบมือถือ ป้ายบอกชั้นและทางหนีไฟ ระบบจ่ายไฟฟ้าสำรองและบันไดหนีไฟ โดยขณะนี้ วสท.ได้จัดตั้งคณะทำงานจากทุกภาคส่วน อาทิผู้ประกอบการ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยภาครัฐเอกชน จัดทำมาตราฐานความปลอดภัยด้านอัคคีภัยสำหรับอาคาร 9 ประเภท ในประเทศไทย ตามลักษณะการใช้อาคาร ได้แก่ อาคารโรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า โรงงาน สำนักงาน ที่พักอาศัย ตลาดเก่า โรงเรียน และสถานบริการ คาดว่าจะบังคับใช้เป็นมาตราฐานอาคารได้ภายในปีหน้า
ด้านนายสิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการ วสท.กล่าวว่า เหตุไฟไหม้อาคารใน ซ.นราธิวาสฯ 18 จากการประเมินภายนอก เบื้องต้นยืนยันว่า โครงสร้างอาคารยังมีความแข็งแรง ไม่ทรุดตัวแน่นอน โดยเฉพาะชั้น 7 เป็นชั้นที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ตัวโครงสร้างภายในยังแข็งแรงดี เนื่องจากตัวอาคารเป็นโครงสร้างแบบเก่า ที่มีคานรับน้ำหนักของตัวอาคารไว้ ซึ่งเจ้าของอาคารสามารถปรับปรุงและเข้าพักอาศัยได้ตามปกติ
หลังจากนี้ วสท.จะส่งเจ้าหน้าที่วิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ลงพื้นที่เก็บเศษซากคอนกรีตนำมาวิเคราะห์ และสำรวจการเอนตัวของอาคาร เพื่อทดสอบความแข็งแรงของคอนกรีตอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดทราบผลภายในสัปดาห์หน้า
นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า เจ้าของอาคารตั้งแต่ 4 ยูนิตขึ้นไป ต้องมีระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ ติดตั้งถังดับเพลิงแบบมือถือ ป้ายบอกชั้นและทางหนีไฟ ระบบจ่ายไฟฟ้าสำรองและบันไดหนีไฟ โดยขณะนี้ วสท.ได้จัดตั้งคณะทำงานจากทุกภาคส่วน อาทิผู้ประกอบการ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยภาครัฐเอกชน จัดทำมาตราฐานความปลอดภัยด้านอัคคีภัยสำหรับอาคาร 9 ประเภท ในประเทศไทย ตามลักษณะการใช้อาคาร ได้แก่ อาคารโรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า โรงงาน สำนักงาน ที่พักอาศัย ตลาดเก่า โรงเรียน และสถานบริการ คาดว่าจะบังคับใช้เป็นมาตราฐานอาคารได้ภายในปีหน้า
ด้านนายสิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการ วสท.กล่าวว่า เหตุไฟไหม้อาคารใน ซ.นราธิวาสฯ 18 จากการประเมินภายนอก เบื้องต้นยืนยันว่า โครงสร้างอาคารยังมีความแข็งแรง ไม่ทรุดตัวแน่นอน โดยเฉพาะชั้น 7 เป็นชั้นที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ตัวโครงสร้างภายในยังแข็งแรงดี เนื่องจากตัวอาคารเป็นโครงสร้างแบบเก่า ที่มีคานรับน้ำหนักของตัวอาคารไว้ ซึ่งเจ้าของอาคารสามารถปรับปรุงและเข้าพักอาศัยได้ตามปกติ
หลังจากนี้ วสท.จะส่งเจ้าหน้าที่วิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ลงพื้นที่เก็บเศษซากคอนกรีตนำมาวิเคราะห์ และสำรวจการเอนตัวของอาคาร เพื่อทดสอบความแข็งแรงของคอนกรีตอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดทราบผลภายในสัปดาห์หน้า
