นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ในปีนี้เริ่มได้เห็นการชำระเงินแบบ Any ID ที่เป็นการชำระเงินแบบใช้หมายเลขอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ โดยคาดว่าจะเริ่มให้มีการลงทะเบียนได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ หลังจากนั้นจะมีการขยายฐานไปยังการใช้บัตรแทนเงินสด ต้องมีการติดตั้งเครื่องรูดบัตร (อีดีซี) คาดว่าแผนงานอีเพย์เมนต์ทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายใน 1 ปีครึ่ง อาทิ เรื่องของการเชื่อมระบบภาษี การใช้จ่ายภาครัฐต้องเป็นอีเพย์เมนต์ทั้งหมด การให้ความรู้กับประชาชนเพื่อให้มีการเข้ามาใช้ระบบนี้มากขึ้น
นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ในการลงทุนเพื่อให้ระบบนี้เกิดขึ้นได้นั้น ในส่วนเอกชนที่ต้องลงทุนติดตั้งเครื่องอีดีซีและลงทุนระบบเครือข่ายอื่นๆ ใช้งบประมาณราว 500 ล้านบาท ส่วนของราชการต้องลงทุนเชื่อมระบบภาษีของกรมสรรพากร กรมบัญชีกลางปรับระบบการเบิกจ่ายเงิน คาดว่าจะลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาทในช่วง 3 ปี โดยในปี 2559 เริ่มลงทุนประมาณ 900 ล้านบาท
นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ในการลงทุนเพื่อให้ระบบนี้เกิดขึ้นได้นั้น ในส่วนเอกชนที่ต้องลงทุนติดตั้งเครื่องอีดีซีและลงทุนระบบเครือข่ายอื่นๆ ใช้งบประมาณราว 500 ล้านบาท ส่วนของราชการต้องลงทุนเชื่อมระบบภาษีของกรมสรรพากร กรมบัญชีกลางปรับระบบการเบิกจ่ายเงิน คาดว่าจะลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาทในช่วง 3 ปี โดยในปี 2559 เริ่มลงทุนประมาณ 900 ล้านบาท