รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ. บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (ทรูมูฟ เอช) ยังได้ยื่นแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้ม ครองผู้บริโภค (ปคบ.)ให้สืบสวนหาตัวผู้ทำผิด ซึ่งปิดกั้นลูกค้าให้ไม่สามารถติดต่อเบอร์ทรูมูฟ เอช แคร์ 1331 ได้ โดยทรูมูฟเข้าใจว่าผู้ได้รับประโยชน์หรือมีส่วนรู้เห็นน่าจะเป็นเอไอเอส เพราะการปิดกั้นเกิดขึ้นเฉพาะเครือข่ายเอไอเอสมายังเครือข่ายทรูมูฟ เอชเท่านั้น
อย่างไรก็ตามพ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการ บก.ปคบ. กล่าวว่า ทาง บก.ปคบ.ยังไม่สามารถรับเรื่องร้องเรียนเพื่อดำเนินคดีได้ ซึ่งต้องตรวจสอบก่อนว่าเป็นหน้าที่ของหน่วยงานใดในการรับเรื่อง
“เราได้ประสานไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ให้มารับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแทน หาก สคบ.ตรวจสอบว่าเป็นคดีอาญา เราจะดำเนินการต่อให้ แต่หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับการให้บริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือก็ต้องส่งเรื่องไปยัง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดำเนินการ ดังนั้นในวันนี้ ทรูฯ ต้องชี้แจงรายละเอียดที่ สคบ. ตามขั้นตอนปกติ”
นางศุภสรณ์ โหรชัยยะ ผู้แทนจาก ทรูฯ กล่าวว่า ทรูฯ มีหลักฐานการร้องเรียนจากผู้บริโภคที่โทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้ที่เป็นวิดีโอคลิปประมาณ10 คลิป ที่เป็นลูกค้าเอไอเอสเกิดปัญหา ทั้งนี้ ลูกค้าได้รับผลกระทบใน 3 รูปแบบคือ 1.ตัดสายโดยทันที 2.ตัดเข้าระบบตอบรับด้วยเสียงของเอไอเอสเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าของบริษัทและตัดสาย และ3.ตัดเข้าระบบตอบรับด้วยเสียงเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าของบริษัทก่อนที่จะตัดเข้าคอลเซ็นเตอร์ของทรูฯ ซึ่งการปิดกั้นลูกค้าดังกล่าวเกิดขึ้นกับลูกค้าเติมเงินในระบบ 2จีของเอไอเอสที่พยายามติดต่อขอข้อมูลมายังทรูมูฟเอช ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ
ด้านนายสุวิทย์ วิจิตรโสภา ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สคบ. กล่าวว่า สคบ.ต้องใช้เวลาตรวจสอบเอกสารก่อน เพราะปกติแล้ว สคบ.มีหน้าที่ดูแลเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าและบริการเท่านั้น ส่วนการให้บริการที่เกี่ยวกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือน่าจะเกี่ยวข้องกับ กสทช.
ขณะที่เอไอเอสออกแถลงการณ์ยืนยัน ลูกค้าเอไอเอสสามารถโทร.ออกไปยังทุกเบอร์ได้ตามปกติ โดยขณะนี้ได้มีการสื่อสารถึงลูกค้าที่ยังใช้เครื่อง 2 จีต่อเนื่อง แต่หลังข้อความเสียงก็ใช้งานได้ปกติ หรือไม่อยากฟังก็ยกเลิกได้
อย่างไรก็ตามพ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการ บก.ปคบ. กล่าวว่า ทาง บก.ปคบ.ยังไม่สามารถรับเรื่องร้องเรียนเพื่อดำเนินคดีได้ ซึ่งต้องตรวจสอบก่อนว่าเป็นหน้าที่ของหน่วยงานใดในการรับเรื่อง
“เราได้ประสานไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ให้มารับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแทน หาก สคบ.ตรวจสอบว่าเป็นคดีอาญา เราจะดำเนินการต่อให้ แต่หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับการให้บริการของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือก็ต้องส่งเรื่องไปยัง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดำเนินการ ดังนั้นในวันนี้ ทรูฯ ต้องชี้แจงรายละเอียดที่ สคบ. ตามขั้นตอนปกติ”
นางศุภสรณ์ โหรชัยยะ ผู้แทนจาก ทรูฯ กล่าวว่า ทรูฯ มีหลักฐานการร้องเรียนจากผู้บริโภคที่โทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้ที่เป็นวิดีโอคลิปประมาณ10 คลิป ที่เป็นลูกค้าเอไอเอสเกิดปัญหา ทั้งนี้ ลูกค้าได้รับผลกระทบใน 3 รูปแบบคือ 1.ตัดสายโดยทันที 2.ตัดเข้าระบบตอบรับด้วยเสียงของเอไอเอสเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าของบริษัทและตัดสาย และ3.ตัดเข้าระบบตอบรับด้วยเสียงเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าของบริษัทก่อนที่จะตัดเข้าคอลเซ็นเตอร์ของทรูฯ ซึ่งการปิดกั้นลูกค้าดังกล่าวเกิดขึ้นกับลูกค้าเติมเงินในระบบ 2จีของเอไอเอสที่พยายามติดต่อขอข้อมูลมายังทรูมูฟเอช ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ
ด้านนายสุวิทย์ วิจิตรโสภา ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สคบ. กล่าวว่า สคบ.ต้องใช้เวลาตรวจสอบเอกสารก่อน เพราะปกติแล้ว สคบ.มีหน้าที่ดูแลเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าและบริการเท่านั้น ส่วนการให้บริการที่เกี่ยวกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือน่าจะเกี่ยวข้องกับ กสทช.
ขณะที่เอไอเอสออกแถลงการณ์ยืนยัน ลูกค้าเอไอเอสสามารถโทร.ออกไปยังทุกเบอร์ได้ตามปกติ โดยขณะนี้ได้มีการสื่อสารถึงลูกค้าที่ยังใช้เครื่อง 2 จีต่อเนื่อง แต่หลังข้อความเสียงก็ใช้งานได้ปกติ หรือไม่อยากฟังก็ยกเลิกได้