นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงการให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จดแจ้งเป็นผู้ประกอบการบัญชีเดียว ว่า รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีความเข้มแข็ง หลังพบว่าการจัดทำบัญชีหลายเล่ม เป็นจุดอ่อนของธุรกิจเอสเอ็มอี ทำให้เกิดปัญหาการขอสินเชื่อ เพราะบัญชีที่เสนอไม่ได้มาตรฐาน กรมสรรพากรจึงออกพระราชกำหนดยกเว้น และสนับสนุนการปฏิบัติเกี่ยวกับภาษีอากร ตามประมวลรัษฎากร พ.ศ.2558 โดยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จดแจ้งเป็นผู้ประกอบการบัญชีชุดเดียว เพื่อยกเว้นการตรวจสอบภาษีย้อนหลังตามกฎหมาย และปี 2559 จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี และในปี 2560 กำไรสุทธิส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี แต่หากกำไรสุทธิส่วนที่เกิน 300,000 บาท เสียภาษีในอัตราร้อยละ 10 จากอัตราภาษีร้อยละ 20
นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ยังกำหนดวิธีการให้ธนาคารพาณิชย์ใช้บัญชีงบการเงินที่ยื่นต่อกรมสรรพากร เป็นหลักฐานการพิจารณาให้สินเชื่อ เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2562
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจ จดแจ้งบัญชีชุดเดียว ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th จนถึงวันที่ 15 มีนาคมนี้
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอียื่นจดแจ้งเป็นผู้ประกอบการบัญชีเดียวแล้วกว่า 60,000 ราย เชื่อว่าเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะมีผู้ประกอบการมาขอจดแจ้งชื่อเพิ่มเป็นแสนราย
นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ยังกำหนดวิธีการให้ธนาคารพาณิชย์ใช้บัญชีงบการเงินที่ยื่นต่อกรมสรรพากร เป็นหลักฐานการพิจารณาให้สินเชื่อ เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2562
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจ จดแจ้งบัญชีชุดเดียว ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th จนถึงวันที่ 15 มีนาคมนี้
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอียื่นจดแจ้งเป็นผู้ประกอบการบัญชีเดียวแล้วกว่า 60,000 ราย เชื่อว่าเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะมีผู้ประกอบการมาขอจดแจ้งชื่อเพิ่มเป็นแสนราย