นายคณิต แสงสุพรรณ กรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ THAI เปิดเผยว่า ในปีนี้การบินไทยมีแผนให้สายการบินไทยสมายล์เปิดจุดบินต่างประเทศมากขึ้น เพื่อเป็นสายการบินที่รองรับผู้โดยสารต่อจากเที่ยวบินหลักของสายการบินไทย (connecting flight) ในการเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งแต่ละเส้นทางจะใช้เวลาทำการบินไม่เกิน 4 ขั่วโมง นอกเหนือจากจุดบินในประเทศ
"ปีนี้ไทยสมายล์จะตั้งตัวทุกอย่าง ปีนี้มีเครื่องบิน 20 ลำ เราวางแผนไว้แล้วและให้ไทยสมายล์สร้างตลาดจีน ไทยสมายล์จะมีจุดบินกระจายในเอเชีย"นายคณิต กล่าว
โดยการใช้ไทยสมายล์ทำการบินแทนการบินไทยในเส้นทางระยะสั้นจะช่วยลดต้นทุนรวมลงไปได้ราว30% ทั้งนี้ ไทยสมายล์จะเป็นกลยุทธ์ส่งเสริมการบริการในลักษณะ Feeder ให้กับการบินไทย และไปทำตลาดที่เส้นทางที่มีจำนวนผู้โดยสารเติบโตขึ้นมา แต่บริการของการบินไทยยังไปไม่ถึง หรือจุดบินที่ไม่สามารถไปได้เพราะมีต้นทุนการดำเนินการสูงกว่าคู่แข่ง
ด้านนายวรเนติ หล้าพระบาง กรรมการและรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ไทยสมายล์มีแผนเปิดจุดบินใน 14 เมือง ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน โดยเมื่อ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาเปิดเที่ยวบินไปยังเมืองฉางซา และเมื่อวันที่ 1 ก.พ.เปิดเที่ยวบินไปยังเสียมราฐ และต้นเดือน มี.ค.นี้จะเปิดจุดบินไปยังเมืองฉงชิ่ง
ทั้งนี้ เส้นทางกรุงเทพ-เสียมราฐ ทางไทยสมายล์เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรปที่เดินทางกับการบินไทยเป็นหลัก และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาจองที่นั่งในไทยเพื่อเดินทางต่อไปท่องเที่ยวในกัมพูชา รวมทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย
สำหรับการเปิดจุดบินใหม่แต่ละแห่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนกว่าจะเริ่มทำกำไร โดยในช่วง 3 เดือนแรกจะเน้นการทำการตลาด นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายด้วยการออกแพ็กเกจทัวร์ของบริษัทเองภายใต้ชื่อ WE Smile Tour ซึ่งเตรียมเปิดตัวเป็นทางการในปลายเดือนก.พ.นี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า
โดยปัจจุบัน ไทยสมายล์มีจำนวนเครื่องบิน 20 ลำ อายุเฉลี่ย 2 ปี ก่อนหน้านี้ได้เปิดจุดบินต่างประเทศ ได้แก่ มาเก๋า ย่างกุ้ง และ มัณฑะเลย์ โดยในเดือน ก.พ.นี้มียอดจองตั๋วโดยสารสูงขึ้นประมาณ 80% สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน เพราะขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน จากเดือน ม.ค. 59 ที่มีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 70% ซึ่งสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับ 60%
ทั้งนี้ไทยสมายล์คาดว่าปีนี้จะทำรายได้ราว 1.2 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ราว 6 พันล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 6% ของรายได้รวมของการบินไทย
"ปีนี้ไทยสมายล์จะตั้งตัวทุกอย่าง ปีนี้มีเครื่องบิน 20 ลำ เราวางแผนไว้แล้วและให้ไทยสมายล์สร้างตลาดจีน ไทยสมายล์จะมีจุดบินกระจายในเอเชีย"นายคณิต กล่าว
โดยการใช้ไทยสมายล์ทำการบินแทนการบินไทยในเส้นทางระยะสั้นจะช่วยลดต้นทุนรวมลงไปได้ราว30% ทั้งนี้ ไทยสมายล์จะเป็นกลยุทธ์ส่งเสริมการบริการในลักษณะ Feeder ให้กับการบินไทย และไปทำตลาดที่เส้นทางที่มีจำนวนผู้โดยสารเติบโตขึ้นมา แต่บริการของการบินไทยยังไปไม่ถึง หรือจุดบินที่ไม่สามารถไปได้เพราะมีต้นทุนการดำเนินการสูงกว่าคู่แข่ง
ด้านนายวรเนติ หล้าพระบาง กรรมการและรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ไทยสมายล์มีแผนเปิดจุดบินใน 14 เมือง ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน โดยเมื่อ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาเปิดเที่ยวบินไปยังเมืองฉางซา และเมื่อวันที่ 1 ก.พ.เปิดเที่ยวบินไปยังเสียมราฐ และต้นเดือน มี.ค.นี้จะเปิดจุดบินไปยังเมืองฉงชิ่ง
ทั้งนี้ เส้นทางกรุงเทพ-เสียมราฐ ทางไทยสมายล์เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรปที่เดินทางกับการบินไทยเป็นหลัก และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาจองที่นั่งในไทยเพื่อเดินทางต่อไปท่องเที่ยวในกัมพูชา รวมทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย
สำหรับการเปิดจุดบินใหม่แต่ละแห่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนกว่าจะเริ่มทำกำไร โดยในช่วง 3 เดือนแรกจะเน้นการทำการตลาด นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายด้วยการออกแพ็กเกจทัวร์ของบริษัทเองภายใต้ชื่อ WE Smile Tour ซึ่งเตรียมเปิดตัวเป็นทางการในปลายเดือนก.พ.นี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า
โดยปัจจุบัน ไทยสมายล์มีจำนวนเครื่องบิน 20 ลำ อายุเฉลี่ย 2 ปี ก่อนหน้านี้ได้เปิดจุดบินต่างประเทศ ได้แก่ มาเก๋า ย่างกุ้ง และ มัณฑะเลย์ โดยในเดือน ก.พ.นี้มียอดจองตั๋วโดยสารสูงขึ้นประมาณ 80% สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน เพราะขณะนี้กำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน จากเดือน ม.ค. 59 ที่มีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 70% ซึ่งสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับ 60%
ทั้งนี้ไทยสมายล์คาดว่าปีนี้จะทำรายได้ราว 1.2 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ราว 6 พันล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 6% ของรายได้รวมของการบินไทย
