พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามการซื้อขายยางพาราตามนโยบายรัฐบาล ณ สหกรณ์กองทุนสวนยางนาแต้ จำกัด ต.นาแต้ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับฟังปัญหาของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อนโยบายที่เข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในช่วงเวลาสั้นๆ
อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำเกษตรกรชาวสวยยางว่าปัญหายางพาราเป็นเรื่องที่สะสมยาวนานไม่มีการควบคุมการวางแผนบริหารจัดการให้มีความยั่งยืน ดังนั้น การดำเนินการต่อจากนี้รัฐบาลจะเร่งเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนโรงงานแปรรูปยาง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์แปรรูปยางใช้ในประเทศ และส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้นกว่าการส่งออกเป็นยางดิบขั้นต้น ซึ่งปี 2559 จะต้องมีความชัดเจนให้ได้ เพราะแต่ละปีผลิตยางดิบประมาณปีละ 4 ล้านตัน แต่มีการใช้ภายในประเทศเพียง 500,000 ตันเท่านั้น
ขณะเดียวกันเกษตรกรชาวสวนยางอย่าพึ่งราคายางเพียงอย่างเดียว ต้องสร้างรายได้เสริมในสวนยางที่รัฐมีโครงการให้กู้วงเงิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 เพื่อทำการเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่ น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะให้เกษตรกรสามารถใช้พื้นที่สวนยางเพิ่มรายได้ด้วย
สำหรับข้อเสนอจากชาวสวนยางที่ให้พิจารณาเพิ่มจุดรับซื้อยางนั้น จะรับไปพิจารณา ในพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้และเกษตรกรสะดวก เพราะส่วนใหญ่จุดรับซื้อค่อนข้างจะเพียงพอและใช้จุดที่เกษตรกรมีการชื้อขายกันมาก่อนแล้ว เพื่อความสะดวกของเกษตรกร แต่หากจำเป็นจริงๆ จะขยายให้ได้ตามความจำเป็น เพราะการตั้งจุดรับซื้อต้องใช้ทุนมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือในการตรวจคุณภาพยาง เจ้าหน้าที่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ก็ต้องไปตรวจสอบ
ส่วนเรื่องที่เกษตรกรขอขยายโควตารับซื้อนั้น พบว่าวันนี้เท่าที่ลงมาดูในพื้นที่รับทราบปัญหาจากเกษตรกรชาวสวนยางว่ามีความต้องการอยากได้โควตามากขึ้น ก็จะประเมินโครงการนำร่อง 100,000 ตันนี้ก่อน ซึ่งถือเป็นการนำตลาดยางด้วย อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมาย กยท.ติดตามประเมินผล เพื่อเตรียมความพร้อมมาตรการต่าง ๆ ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลเปิดกรีดยางเดือนพฤษภาคม จะนำเข้าพิจารณาของบอร์ด กยท. เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับผู้บริหาร กยท.นั้น จำเป็นจะต้องมีการสรรหาจากการสมัคร และขณะนี้เปิดรับสมัครมา 3 รอบ ซึ่งก็ยังไม่ได้บุคคลที่เหมาะสมจำเป็นต้องเปิดสมัครครั้งที่ 4 ซึ่งคงจะต้องมีการปรับลดข้อกำหนดต่าง ๆ ลงบ้าง อาจมีการล้าช้าบ้าง ซึ่งการสรรหาก็จะเป็นไปตามขบวนการส่วนการบริหารภายในก็ต้องเห็นใจ เพราะ กยท.พึ่งเกิดพึ่งจะมีมาเพียงไม่กี่เดือน เจ้าหน้าที่ก็มาจาก 3 หน่วยงานรวมตัวกันเป็น กยท. ระเบียบหรือกฎหมายพึ่งเริ่มก็ต้องขอเวลา
อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำเกษตรกรชาวสวยยางว่าปัญหายางพาราเป็นเรื่องที่สะสมยาวนานไม่มีการควบคุมการวางแผนบริหารจัดการให้มีความยั่งยืน ดังนั้น การดำเนินการต่อจากนี้รัฐบาลจะเร่งเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนโรงงานแปรรูปยาง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์แปรรูปยางใช้ในประเทศ และส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้นกว่าการส่งออกเป็นยางดิบขั้นต้น ซึ่งปี 2559 จะต้องมีความชัดเจนให้ได้ เพราะแต่ละปีผลิตยางดิบประมาณปีละ 4 ล้านตัน แต่มีการใช้ภายในประเทศเพียง 500,000 ตันเท่านั้น
ขณะเดียวกันเกษตรกรชาวสวนยางอย่าพึ่งราคายางเพียงอย่างเดียว ต้องสร้างรายได้เสริมในสวนยางที่รัฐมีโครงการให้กู้วงเงิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 เพื่อทำการเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่ น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะให้เกษตรกรสามารถใช้พื้นที่สวนยางเพิ่มรายได้ด้วย
สำหรับข้อเสนอจากชาวสวนยางที่ให้พิจารณาเพิ่มจุดรับซื้อยางนั้น จะรับไปพิจารณา ในพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้และเกษตรกรสะดวก เพราะส่วนใหญ่จุดรับซื้อค่อนข้างจะเพียงพอและใช้จุดที่เกษตรกรมีการชื้อขายกันมาก่อนแล้ว เพื่อความสะดวกของเกษตรกร แต่หากจำเป็นจริงๆ จะขยายให้ได้ตามความจำเป็น เพราะการตั้งจุดรับซื้อต้องใช้ทุนมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือในการตรวจคุณภาพยาง เจ้าหน้าที่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ก็ต้องไปตรวจสอบ
ส่วนเรื่องที่เกษตรกรขอขยายโควตารับซื้อนั้น พบว่าวันนี้เท่าที่ลงมาดูในพื้นที่รับทราบปัญหาจากเกษตรกรชาวสวนยางว่ามีความต้องการอยากได้โควตามากขึ้น ก็จะประเมินโครงการนำร่อง 100,000 ตันนี้ก่อน ซึ่งถือเป็นการนำตลาดยางด้วย อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมาย กยท.ติดตามประเมินผล เพื่อเตรียมความพร้อมมาตรการต่าง ๆ ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลเปิดกรีดยางเดือนพฤษภาคม จะนำเข้าพิจารณาของบอร์ด กยท. เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับผู้บริหาร กยท.นั้น จำเป็นจะต้องมีการสรรหาจากการสมัคร และขณะนี้เปิดรับสมัครมา 3 รอบ ซึ่งก็ยังไม่ได้บุคคลที่เหมาะสมจำเป็นต้องเปิดสมัครครั้งที่ 4 ซึ่งคงจะต้องมีการปรับลดข้อกำหนดต่าง ๆ ลงบ้าง อาจมีการล้าช้าบ้าง ซึ่งการสรรหาก็จะเป็นไปตามขบวนการส่วนการบริหารภายในก็ต้องเห็นใจ เพราะ กยท.พึ่งเกิดพึ่งจะมีมาเพียงไม่กี่เดือน เจ้าหน้าที่ก็มาจาก 3 หน่วยงานรวมตัวกันเป็น กยท. ระเบียบหรือกฎหมายพึ่งเริ่มก็ต้องขอเวลา