ศาลอาญารัชดา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีที่ นายหนุ่ย หรือ ติ๊งต่าง สัญชาติไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี , พรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี , ฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน และกักขังหน่วงเหนี่ยว จากกรณีเมื่อวันที่ 5 ก.พ.56 นายติ๊งต่างได้ลักพาตัวเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ไปจากผู้ปกครองขณะกำลังเดินเที่ยวงานกาชาด ที่อำเภอเมืองเลย โดยนายติ๊งต่างได้ใช้กำลังข่มขืนเด็กหญิงในป่าละเมาะ โดยการบีบคอจนเด็กหญิงถึงแก่ความตาย โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต แต่นายติ๊งต่างรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุกตลอดชีวิต
ล่าสุดศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ว่าจำเลยกระทำความผิดมาเบิกความ แต่โจทก์มีบันทึกคำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวน เกี่ยวกับขั้นตอนกระทำความผิดตั้งแต่ต้นจนจบอย่างละเอียด สอดคล้องกับพยานแวดล้อม และผลตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งข้อเท็จจริงจากคำฟ้องแสดงให้เห็นว่านายติ๊งต่างได้ฆ่าผู้เสียหายอย่างทารุณโหดร้าย ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาแก้ให้เพิ่มโทษนายติ๊งต่าง ในความผิดฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวและพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี จากจำคุก 8 ปี เป็น 12 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 6 ปี และเมื่อรวมกับโทษในข้อหาฆ่าผู้อื่น คงเหลือจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษาไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามสำหรับ นายติ๊งต่างเคยถูกศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิตมาแล้ว 2 สำนวน จากคดีกระทำชำเราและฆ่าเด็กหญิงวัย 6 ขวบ บริเวณพื้นที่รกร้างใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ย่านซอยแบริ่ง ถนนสุขุมวิท เมื่อเดือน ธ.ค. ปี 56 และคดีกระทำชำเราและฆ่าเด็กชาย วัย 7 ขวบ ที่ อ.วังสะพุง จ.เลย เมื่อเดือน พ.ย. ปี 56
ล่าสุดศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ว่าจำเลยกระทำความผิดมาเบิกความ แต่โจทก์มีบันทึกคำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวน เกี่ยวกับขั้นตอนกระทำความผิดตั้งแต่ต้นจนจบอย่างละเอียด สอดคล้องกับพยานแวดล้อม และผลตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งข้อเท็จจริงจากคำฟ้องแสดงให้เห็นว่านายติ๊งต่างได้ฆ่าผู้เสียหายอย่างทารุณโหดร้าย ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาแก้ให้เพิ่มโทษนายติ๊งต่าง ในความผิดฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวและพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี จากจำคุก 8 ปี เป็น 12 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 6 ปี และเมื่อรวมกับโทษในข้อหาฆ่าผู้อื่น คงเหลือจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว ตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษาไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามสำหรับ นายติ๊งต่างเคยถูกศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิตมาแล้ว 2 สำนวน จากคดีกระทำชำเราและฆ่าเด็กหญิงวัย 6 ขวบ บริเวณพื้นที่รกร้างใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ย่านซอยแบริ่ง ถนนสุขุมวิท เมื่อเดือน ธ.ค. ปี 56 และคดีกระทำชำเราและฆ่าเด็กชาย วัย 7 ขวบ ที่ อ.วังสะพุง จ.เลย เมื่อเดือน พ.ย. ปี 56