สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากกรณีพบเศษชิ้นส่วนซากเครื่องบิน ลอยมาเกยชายหาดทะเล หมู่ 9 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ทางใต้ของประเทศไทย เมื่อเช้าวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่า ชิ้นส่วนนี้มาจากเครื่องบินโบอิ้ง 777 เที่ยวบินเอ็มเอช 370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ที่หายสาบสูญไปพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน เมื่อเดือน ม.ค. 2014 หรือไม่ ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินออกมาระบุว่า ชิ้นส่วนที่พบไม่น่าจะมาจากเครื่องบินที่หายไปลำดังกล่าว
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า แม้กระแสน้ำรุนแรงในมหาสมุทรอินเดียอาจสามารถส่งเศษซากเครื่องบินไปไกลหลายพันกิโลเมตรจากจุดตก แต่เป็นไปได้น้อยมากที่เศษชิ้นส่วนจะถูกพัดข้ามเส้นศูนย์สูตรไปยังซีกโลกเหนือ โดยนาย เกรก วอลดรอน บรรณาธิการจัดการสาขาเอเชียของ 'Flightglobal' สื่อออนไลน์เกี่ยวกับการบิน ระบุว่า ตำแหน่งของเศษชิ้นส่วนในประเทศไทยไม่สอดคล้องกับรูปแบบจำลองการไหลของคลื่นที่ปรากฏกับ เศษชิ้นส่วน แฟลปเพอรอน ของเอ็มเอช 370 ที่พบบนเกาะเรอูนิยงทางตะวันตกของมหาสมุทรอินเดียเมื่อเดือน ก.ค. 2015
"เครื่องหมาย, รูปแบบทางวิศวกรรม และ ส่วนประกอบที่ปรากฏให้เห็นบนเศษชินส่วนนี้ บ่งชี้อย่างรุนแรงว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับงานด้านอวกาศ" นายวอลดรอนกล่าวและเสริมว่า มีความเป็นไม่ได้ที่ชิ้นส่วนนี้จะมีแหล่งที่มีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ เช่น ชิ้นส่วนจรวดส่งดาวเทียมที่อินเดียปล่อยบริเวณอ่าวเบงกอล อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการพิสูจน์อย่างระมัดระวัง เพื่อค้นหาต้นตอที่แท้จริงของมัน
ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันที่มาของชิ้นส่วนดังกล่าวจากรัฐบาลไทยแต่อย่างใด แต่สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างคำพูดของ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาลไทยด้วยว่า เขาไม่คิดว่าชิ้นส่วนที่พบมาจากเอ็มเอช 370 ด้านโฆษกศูนย์ความร่วมมือสำนักงานร่วม ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลการค้นหาเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ของนานาชาติ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงแคนเบอร์ราของออสเตรเลีย เผยต่อรอยเตอร์สว่า พวกเขากำลังรอผลการตรวจสอบชิ้นส่วนปริศนาชิ้นนี้จากเจ้าหน้าที่ไทย.
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า แม้กระแสน้ำรุนแรงในมหาสมุทรอินเดียอาจสามารถส่งเศษซากเครื่องบินไปไกลหลายพันกิโลเมตรจากจุดตก แต่เป็นไปได้น้อยมากที่เศษชิ้นส่วนจะถูกพัดข้ามเส้นศูนย์สูตรไปยังซีกโลกเหนือ โดยนาย เกรก วอลดรอน บรรณาธิการจัดการสาขาเอเชียของ 'Flightglobal' สื่อออนไลน์เกี่ยวกับการบิน ระบุว่า ตำแหน่งของเศษชิ้นส่วนในประเทศไทยไม่สอดคล้องกับรูปแบบจำลองการไหลของคลื่นที่ปรากฏกับ เศษชิ้นส่วน แฟลปเพอรอน ของเอ็มเอช 370 ที่พบบนเกาะเรอูนิยงทางตะวันตกของมหาสมุทรอินเดียเมื่อเดือน ก.ค. 2015
"เครื่องหมาย, รูปแบบทางวิศวกรรม และ ส่วนประกอบที่ปรากฏให้เห็นบนเศษชินส่วนนี้ บ่งชี้อย่างรุนแรงว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับงานด้านอวกาศ" นายวอลดรอนกล่าวและเสริมว่า มีความเป็นไม่ได้ที่ชิ้นส่วนนี้จะมีแหล่งที่มีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ เช่น ชิ้นส่วนจรวดส่งดาวเทียมที่อินเดียปล่อยบริเวณอ่าวเบงกอล อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการพิสูจน์อย่างระมัดระวัง เพื่อค้นหาต้นตอที่แท้จริงของมัน
ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันที่มาของชิ้นส่วนดังกล่าวจากรัฐบาลไทยแต่อย่างใด แต่สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างคำพูดของ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาลไทยด้วยว่า เขาไม่คิดว่าชิ้นส่วนที่พบมาจากเอ็มเอช 370 ด้านโฆษกศูนย์ความร่วมมือสำนักงานร่วม ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลการค้นหาเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ของนานาชาติ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงแคนเบอร์ราของออสเตรเลีย เผยต่อรอยเตอร์สว่า พวกเขากำลังรอผลการตรวจสอบชิ้นส่วนปริศนาชิ้นนี้จากเจ้าหน้าที่ไทย.
