จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จ.มหาสารคาม กับพวก จำนวน 32 ราย กรณีจัดสอบแข่งขันบรรจุพนักงานส่วนตำบลของ อบต.พื้นที่ระหว่างปี 2556-2557 พบมีการเปลี่ยนคะแนนผู้สอบได้ และมีการปลอมแปลงลายเซ็นมหาวิทยาลัยที่เป็นหน่วยงานกลางในการจัดสอบ จนถูกคำสั่ง ม.44 ให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมถูกตรวจสอบพร้อมกับข้าราชการในบัญชีรายชื่อล็อตที่ 3
ล่าสุดนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้ขยายผลการไต่สวนไปอีกหลายจังหวัด เนื่องจากเข้าข่ายมีพฤติการณ์เดียวกันกับ จ.มหาสารคาม ซึ่งพบข้อมูลบางอย่างที่มีความเชื่อมโยงกัน ส่วนจะเป็นพื้นที่ใดบ้าง ยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพิ่มเติม คาดว่าเร็วๆ นี้ จะสามารถดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย เพราะ อบต.เป็นฝ่ายของบประมาณมาบริหารจัดการเอง ผู้เกี่ยวข้องจึงมีแค่ระดับนายก อบต.และข้าราชการท้องถิ่นในพื้นที่
ล่าสุดนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้ขยายผลการไต่สวนไปอีกหลายจังหวัด เนื่องจากเข้าข่ายมีพฤติการณ์เดียวกันกับ จ.มหาสารคาม ซึ่งพบข้อมูลบางอย่างที่มีความเชื่อมโยงกัน ส่วนจะเป็นพื้นที่ใดบ้าง ยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานเพิ่มเติม คาดว่าเร็วๆ นี้ จะสามารถดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย เพราะ อบต.เป็นฝ่ายของบประมาณมาบริหารจัดการเอง ผู้เกี่ยวข้องจึงมีแค่ระดับนายก อบต.และข้าราชการท้องถิ่นในพื้นที่