นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยผลการพิจารณาการตรวจสอบการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ว่า หลังจากสำนักงาน ป.ป.ช.มอบหมายให้สำนักการข่าว ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบข้อมูลการดำเนินโครงการในภาพรวม แต่ไม่พบข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับการทุจริตหรือมีผู้ทุจริต ประกอบกับขณะนี้ได้ข้อมูลเพิ่มเติม มีผู้เสียหายบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ร้องทุกข์กับกองบังคับการปราบปราม รวมทั้งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบการใช้งบกลางกว่า 63 ล้านบาท และกระทรวงหลาโหม ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินบริจาคจัดงานเลี้ยง และจัดซื้อต้นไม้ หากพบมีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิด หรือเข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการภายใน 30 วัน จึงมีมติให้สำนักงาน ป.ป.ช.ไปสอบถามและติดตามข้อมูลจากทั้ง 3 หน่วยงาน ก่อนนำมาเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.อีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่าจะรับเรื่องไว้พิจารณาไต่สวนหรือไม่
เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า หากพิจารณาแล้วเข้าข่าย ป.ป.ช.จะรับไว้พิจารณา ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ส่วนกรณี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า มีการจ่ายค่าหัวคิวในการหล่อรูป ยังไม่มีความชัดเจนว่าการหักค่าหัวคิวเป็นของภาคเอกชนหรือภาครัฐ ทำให้ข้อมูลส่วนนี้ยังไม่มีเหตุอันควรให้สงสัย
เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวอีกว่า หากพิจารณาแล้วเข้าข่าย ป.ป.ช.จะรับไว้พิจารณา ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ส่วนกรณี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า มีการจ่ายค่าหัวคิวในการหล่อรูป ยังไม่มีความชัดเจนว่าการหักค่าหัวคิวเป็นของภาคเอกชนหรือภาครัฐ ทำให้ข้อมูลส่วนนี้ยังไม่มีเหตุอันควรให้สงสัย