xs
xsm
sm
md
lg

เตือน 9 จังหวัดภาคใต้รับมือวาตภัย-คลื่นลมแรง 23-26 ม.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ในช่วงวันที่ 23 – 26 มกราคมนี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ส่งผลให้คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2 - 3 เมตร อาจส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเลและชาวประมงได้รับผลกระทบได้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ประสาน 9 จังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานีเขต 12 สงขลา และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือวาตภัย และคลื่นลมแรง โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเล และพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดเตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติในระยะ 3 – 4 วันนี้ พร้อมตรวจสอบความปลอดภัยของสถานที่ท่องเที่ยวริมชายฝั่งทะเล หากเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากคลื่นลมแรงให้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไม่ลงเล่นน้ำ และงดประกอบกิจกรรมทางน้ำ อีกทั้งตรวจสอบสิ่งก่อสร้างและป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ตัดแต่งกิ่งไม้บริเวณริมถนนและพื้นที่ชุมชน เพื่อป้องกันการล้มทับ ก่อให้เกิดอันตรายได้

ส่วนกรณีสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เพื่อประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที

สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ในช่วงที่เกิดพายุลมแรงห้ามหลบบริเวณใต้ต้นไม้ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24 – 26 มกราคมนี้ ที่สำคัญ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางน้ำควรตรวจสอบสภาพอากาศและรับฟัง ประกาศเตือนภัยจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด กรณีเกิดคลื่นลมแรงให้พิจารณางดหรือเลื่อนการเดินเรือ รวมถึงการประกอบกิจกรรมทางน้ำในช่วงดังกล่าว

ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรงสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น