ตำรวจรถไฟจับกุมนายอาทิตย์ ทิพย์วาศรี อายุ 31 ปี และเยาวชนหญิงอายุ 17 ปี พร้อมยาบ้า 156,000 เม็ด ยาไอซ์ 6 กิโลกรัม กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ ทะเบียน กฉ 8247 จังหวัดสงขลา จำนวน 1 คัน
ผู้ต้องหาทั้งสองถูกจับกุมขณะโดยสารบนรถไฟประจำรถด่วนพิเศษทักษินที่ 37 (กรุงเทพ – สุไหงกลก) หลังเจ้าหน้าที่กำลังตรวจขบวนรถไฟตามปกติ พบผู้ต้องหาที่โดยสารอยู่ในตู้นอนชั้น 1 ท่าทางมีพิรุธ จึงเข้าตรวจสอบกระเป๋าเดินทาง ซึ่งล็อกกุญแจแน่นหนาถึง 3 ชั้น แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าจำรหัสปลดล็อกไม่ได้ ตำรวจจึงเชิญตัวไปตรวจสอบกระเป๋าที่สถานีตำรวจรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนพบของกลางยาเสพติดดังกล่าว
ทั้งนี้ ระหว่างการจับกุม มีผู้ที่จ้างวานผู้ต้องหาได้ติดต่อมายังเจ้าหน้าที่พยายามเสนอเงินสินบน 500,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้โอนเงินสินบนเข้าบัญชี 200,000 บาท ก่อนอายัดบัญชี จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาในจังหวัดสงขลา พบยาไอซ์อีก 710 กรัม
ผู้ต้องหาสารภาพว่า มีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับผู้จ้างวาน ซึ่งเสนอค่าจ้าง 100,000 บาท ให้ขับรถยนต์จากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มาจอดไว้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ย่านศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ ก่อนจะมีคนนำกระเป๋าเดินทางมามอบให้ อ้างว่าไม่รู้มียาเสพติดภายใน จากนั้นโดยสารทางรถไฟเพื่อนำกระเป๋าไปส่งที่หาดใหญ่ ก่อนถูกจับกุม
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ กล่าวว่า ได้ประสานกองบังคับการปราบปรามเกี่ยวกับการกระทำผิดทางเทคโนโลยี (ปอท.) ขยายผลตรวจสอบเส้นทางการโอนเงินของบุคคลที่ว่าจ้าง ส่วนผู้ต้องหา จะส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง กล่าวว่า ยาเสพติดดังกล่าวคาดว่าเป็นเครือข่ายชายแดนภาคเหนือ เตรียมส่งไปขายในจังหวัดภาคใต้ ซึ่งเริ่มใช้วิธีการลำเลียงทางรถไฟมากขึ้น เนื่องจากสะดวกและหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจรถไฟมีมาตรการจัดสายตรวจประจำรถไฟทุกขบวน เพื่อสกัดกั้นเหตุอาชญากรรมและการลำเลียงสิ่งผิดกฎหมายทางรถไฟอย่างเข้มงวด
ผู้ต้องหาทั้งสองถูกจับกุมขณะโดยสารบนรถไฟประจำรถด่วนพิเศษทักษินที่ 37 (กรุงเทพ – สุไหงกลก) หลังเจ้าหน้าที่กำลังตรวจขบวนรถไฟตามปกติ พบผู้ต้องหาที่โดยสารอยู่ในตู้นอนชั้น 1 ท่าทางมีพิรุธ จึงเข้าตรวจสอบกระเป๋าเดินทาง ซึ่งล็อกกุญแจแน่นหนาถึง 3 ชั้น แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าจำรหัสปลดล็อกไม่ได้ ตำรวจจึงเชิญตัวไปตรวจสอบกระเป๋าที่สถานีตำรวจรถไฟทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนพบของกลางยาเสพติดดังกล่าว
ทั้งนี้ ระหว่างการจับกุม มีผู้ที่จ้างวานผู้ต้องหาได้ติดต่อมายังเจ้าหน้าที่พยายามเสนอเงินสินบน 500,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้โอนเงินสินบนเข้าบัญชี 200,000 บาท ก่อนอายัดบัญชี จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาในจังหวัดสงขลา พบยาไอซ์อีก 710 กรัม
ผู้ต้องหาสารภาพว่า มีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกับผู้จ้างวาน ซึ่งเสนอค่าจ้าง 100,000 บาท ให้ขับรถยนต์จากอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มาจอดไว้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ย่านศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ ก่อนจะมีคนนำกระเป๋าเดินทางมามอบให้ อ้างว่าไม่รู้มียาเสพติดภายใน จากนั้นโดยสารทางรถไฟเพื่อนำกระเป๋าไปส่งที่หาดใหญ่ ก่อนถูกจับกุม
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ กล่าวว่า ได้ประสานกองบังคับการปราบปรามเกี่ยวกับการกระทำผิดทางเทคโนโลยี (ปอท.) ขยายผลตรวจสอบเส้นทางการโอนเงินของบุคคลที่ว่าจ้าง ส่วนผู้ต้องหา จะส่งพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง กล่าวว่า ยาเสพติดดังกล่าวคาดว่าเป็นเครือข่ายชายแดนภาคเหนือ เตรียมส่งไปขายในจังหวัดภาคใต้ ซึ่งเริ่มใช้วิธีการลำเลียงทางรถไฟมากขึ้น เนื่องจากสะดวกและหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตำรวจรถไฟมีมาตรการจัดสายตรวจประจำรถไฟทุกขบวน เพื่อสกัดกั้นเหตุอาชญากรรมและการลำเลียงสิ่งผิดกฎหมายทางรถไฟอย่างเข้มงวด
