นายลุตฟี ราอุฟ เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย พร้อมด้วย นายทรีโยโก จัทมีโก กงสุลใหญ่อินโดนีเซีย ณ จังหวัดสงขลา และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะ นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของจังหวัดปัตตานี ในโอกาสพ้นวาระของการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 31 มกราคม 2559 เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนขยายความสัมพันธ์ทางการทูตกับจังหวัดปัตตานี ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัด ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี พร้อมได้หารือข้าอย่างไม่เป็นทางการ ในเรื่องของการประมง การศึกษา และศิลปวัฒนธรรมระหว่างกัน
นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ในการทำงานขับเคลื่อนจังหวัดปัตตานีได้เน้นการบูรณาการกับทุกภาคส่วน จังหวัดปัตตานีและจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศอินโดนีเซียอย่างยาวนาน พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการประสานงานระหว่างกันในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะโครงการความร่วมมือเศรษฐกิจสามฝ่าย IMTGT รวมถึงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างกันทั้ง 2 ประเทศ เฉพาะที่จังหวัดปัตตานี ขณะนี้มีการแลกเปลี่ยนนักศึกษา จำนวน 20 คน ที่วิทยาลัยฟาฎอนี หรือวิทยาลัยอิสลาม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี
นายลุตฟี กล่าวว่า การส่งเสริมทุนการศึกษาของอินโดนีเซียกับนักศึกษาไทย นอกจากเป็นของกระทรวงศึกษาแล้ว จะมีการเพิ่มทุนการศึกษา ทางด้านศาสนา และของเอกชนด้วย จากการประสานงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของการทำประมงระหว่างกันนั้น ยังชะลอต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เพราะทั้ง 2 ประเทศ ไม่ส่งเสริมการทำประมงที่ผิดกฎหมาย และหากผู้นำทั้ง 2 ประเทศได้พูดคุยกัน ปัญหาต่างๆ น่าจะคลี่คลายดีขึ้น
นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ในการทำงานขับเคลื่อนจังหวัดปัตตานีได้เน้นการบูรณาการกับทุกภาคส่วน จังหวัดปัตตานีและจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศอินโดนีเซียอย่างยาวนาน พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการประสานงานระหว่างกันในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะโครงการความร่วมมือเศรษฐกิจสามฝ่าย IMTGT รวมถึงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างกันทั้ง 2 ประเทศ เฉพาะที่จังหวัดปัตตานี ขณะนี้มีการแลกเปลี่ยนนักศึกษา จำนวน 20 คน ที่วิทยาลัยฟาฎอนี หรือวิทยาลัยอิสลาม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี
นายลุตฟี กล่าวว่า การส่งเสริมทุนการศึกษาของอินโดนีเซียกับนักศึกษาไทย นอกจากเป็นของกระทรวงศึกษาแล้ว จะมีการเพิ่มทุนการศึกษา ทางด้านศาสนา และของเอกชนด้วย จากการประสานงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของการทำประมงระหว่างกันนั้น ยังชะลอต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เพราะทั้ง 2 ประเทศ ไม่ส่งเสริมการทำประมงที่ผิดกฎหมาย และหากผู้นำทั้ง 2 ประเทศได้พูดคุยกัน ปัญหาต่างๆ น่าจะคลี่คลายดีขึ้น