นายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล ซึ่งอ้างได้รับการแต่งตั้งจากกรรมการสภามหาวิทยาลัยเสียงข้างมากให้ดำรงตำแหน่งรักษาการอธิการบดี กล่าวว่า ตนและกลุ่มผู้สนับสนุนได้หารือร่วมกันแล้วว่า จะยื่นอุทธรณ์กับการบังคับใช้มาตรา 86 (4) วรรค 2 ของกระทรวงศึกษาธิการ กับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ภายในระยะเวลา 30 วันนับจากวันนี้ เนื่องจากเมื่อพิจารณาตามข้อกฎหมายแล้ว สถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบันยังไม่เข้าข่ายที่จะบังคับใช้ ม.86 (4) วรรค 2 เพราะ ม.อัสสัมชัญ ยังสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ
ด้านนายวีรศักดิ์ อนุสนธิวงษ์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวว่า เคารพการวินิจฉัยของ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพราะเป็นการพิจารณาที่จะดำเนินการตามกรอบกฎหมาย ทั้งนี้ส่วนตัวยังมองว่าการมีคนกลางเข้ามาควบคุมมหาวิทยาลัยชั่วคราวนั้น ไม่ได้ทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสียชื่อเสียง แถมยังมีข้อดีในเรื่องของการมีคนนอกเข้ามาตรวจสอบ เหมือนมีคนมาช่วยล้างทำความสะอาดบ้านให้
ขณะที่นพ.กําจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ระหว่างที่ยังไม่มีประกาศควบคุมมหาวิทยาลัยนี้ พล.อ.ดาว์พงษ์ ก็ยังไม่ได้ปิดทาง 100% โดยยังเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายเสนอทางออก หากมีทางออกที่ดีกว่าการใช้มาตรา 86 ก็พร้อมจะพิจารณา แต่ต้องเป็นข้อเสนอที่มาจากสภาเดียว ที่ไม่มีกรรมการเสียงข้างมาก หรือ เสียงข้างน้อย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็ได้เตรียมร่างคำสั่งและเตรียมทาบทามผู้ทรงคุณวุฒิไว้แล้ว 3-4 คน ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจปัญหาของเอแบคด้วย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ คาดว่าจะออกคำสั่งควบคุมได้ภายในวันที่ 19 มกราคมนี้ เพราะฉะนั้นทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังมีเวลาที่จะไกล่เกลี่ยกันก่อนออกคำสั่ง ซึ่งหวังว่าระหว่างนี้จะไม่เกิดการกระทบกระทั่งกันและกันขึ้น
ทั้งนี้พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารและกรรมการสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นว่าฝ่ายภราดาบัญชา แสงหิรัญ อธิการบดี เสนอให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยทั้งหมดลาออก เพื่อให้มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ถือใบอนุญาตจัดตั้งมหาวิทยาลัย แต่งตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยชุดใหม่เข้ามาแทน แต่ฝ่ายนายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล ซึ่งอ้างได้รับการแต่งตั้งจากกรรมการสภามหาวิทยาลัยเสียงข้างมากให้ดำรงตำแหน่งรักษาการอธิการบดี เสนอว่า ให้กรรมการทุกคนลาออกทั้งหมด แต่ให้เลือกตัวแทนฝ่ายละ 5 คน และกระทรวงศึกษาธิการจัดหาคนกลางอีก 3 คน มาดำรงตำแหน่งแทน
อย่างไรก็ตามต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับข้อเสนอของอีกฝ่าย ดังนั้นจึงทำให้ตนไม่มีทางเลือก จึงจำเป็นต้องใช้มาตรา 86 (4) วรรค 2 แห่ง พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 เข้าไปดำเนินการ โดยได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปเฟ้นหาผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเหมาะสมมาเป็นคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยไม่น้อยกว่า 5 คน และไม่เกิน 15 คน โดยคาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้าจะสามารถลงนามออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการ และออกประกาศควบคุมมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญได้
“ขั้นตอนการควบคุมของเรา เมื่อเข้าไปแล้วก็ต้องลงไปดูความไม่ลงรอยกันว่า เกิดจากอะไรบ้าง รวมถึงโครงการห้องปฏิบัติการเครื่องฝึกบินจำลองเสมือนจริงที่มีปัญหาอยู่ว่า มีการทุจริตจริงหรือไม่ ระบบกติกาหลวมไปหรือไม่ ก็จะไปดูในทุกประเด็น ส่วนจะเข้าไปควบคุมอยู่นานเท่าไร คงไม่สามารถตอบได้ แต่เคยประเมินไว้ว่าอาจเข้าไปควบคุม 3 เดือน แต่ถ้าการตรวจสอบยังไม่เรียบร้อยก็ต้องขยายเวลาเพิ่ม จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่เกิดปัญหาอีก จึงจะส่งมอบอำนาจคืนให้มหาวิทยาลัย” พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายสุทธิพรอ้างว่า แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการควบคุมเข้าไปดูแลมหาวิทยาลัย นายสุทธิพร ก็ยังมีตำแหน่งเป็นรักษาการอธิการบดี เพราะมีคำสั่งศาลปกครองคุ้มครองไว้อยู่นั้น พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการควบคุมไม่ได้เป็นการก้าวก่ายคำสั่งศาลแต่อย่างใด เพราะการใช้อำนาจตามมาตรา 86 (4) วรรค 2 ตั้งคณะกรรมการควบคุมเข้าไปเป็นคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยชุดใหม่ ก็ย่อมมีอำนาจในการแต่งตั้งผู้ที่มีความเหมาะสมขึ้นมาเป็นอธิการบดีได้ และจะส่งผลให้ตำแหน่งรักษาการของนายสุทธิพรหมดวาระลงไป
ด้านนายวีรศักดิ์ อนุสนธิวงษ์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวว่า เคารพการวินิจฉัยของ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพราะเป็นการพิจารณาที่จะดำเนินการตามกรอบกฎหมาย ทั้งนี้ส่วนตัวยังมองว่าการมีคนกลางเข้ามาควบคุมมหาวิทยาลัยชั่วคราวนั้น ไม่ได้ทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสียชื่อเสียง แถมยังมีข้อดีในเรื่องของการมีคนนอกเข้ามาตรวจสอบ เหมือนมีคนมาช่วยล้างทำความสะอาดบ้านให้
ขณะที่นพ.กําจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ระหว่างที่ยังไม่มีประกาศควบคุมมหาวิทยาลัยนี้ พล.อ.ดาว์พงษ์ ก็ยังไม่ได้ปิดทาง 100% โดยยังเปิดโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่ายเสนอทางออก หากมีทางออกที่ดีกว่าการใช้มาตรา 86 ก็พร้อมจะพิจารณา แต่ต้องเป็นข้อเสนอที่มาจากสภาเดียว ที่ไม่มีกรรมการเสียงข้างมาก หรือ เสียงข้างน้อย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็ได้เตรียมร่างคำสั่งและเตรียมทาบทามผู้ทรงคุณวุฒิไว้แล้ว 3-4 คน ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่มีความเข้าใจปัญหาของเอแบคด้วย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ คาดว่าจะออกคำสั่งควบคุมได้ภายในวันที่ 19 มกราคมนี้ เพราะฉะนั้นทั้ง 2 ฝ่าย ก็ยังมีเวลาที่จะไกล่เกลี่ยกันก่อนออกคำสั่ง ซึ่งหวังว่าระหว่างนี้จะไม่เกิดการกระทบกระทั่งกันและกันขึ้น
ทั้งนี้พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารและกรรมการสภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นว่าฝ่ายภราดาบัญชา แสงหิรัญ อธิการบดี เสนอให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยทั้งหมดลาออก เพื่อให้มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ถือใบอนุญาตจัดตั้งมหาวิทยาลัย แต่งตั้งกรรมการสภามหาวิทยาลัยชุดใหม่เข้ามาแทน แต่ฝ่ายนายสุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล ซึ่งอ้างได้รับการแต่งตั้งจากกรรมการสภามหาวิทยาลัยเสียงข้างมากให้ดำรงตำแหน่งรักษาการอธิการบดี เสนอว่า ให้กรรมการทุกคนลาออกทั้งหมด แต่ให้เลือกตัวแทนฝ่ายละ 5 คน และกระทรวงศึกษาธิการจัดหาคนกลางอีก 3 คน มาดำรงตำแหน่งแทน
อย่างไรก็ตามต่างฝ่ายต่างไม่ยอมรับข้อเสนอของอีกฝ่าย ดังนั้นจึงทำให้ตนไม่มีทางเลือก จึงจำเป็นต้องใช้มาตรา 86 (4) วรรค 2 แห่ง พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 เข้าไปดำเนินการ โดยได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปเฟ้นหาผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเหมาะสมมาเป็นคณะกรรมการควบคุมมหาวิทยาลัยไม่น้อยกว่า 5 คน และไม่เกิน 15 คน โดยคาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้าจะสามารถลงนามออกคำสั่งตั้งคณะกรรมการ และออกประกาศควบคุมมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญได้
“ขั้นตอนการควบคุมของเรา เมื่อเข้าไปแล้วก็ต้องลงไปดูความไม่ลงรอยกันว่า เกิดจากอะไรบ้าง รวมถึงโครงการห้องปฏิบัติการเครื่องฝึกบินจำลองเสมือนจริงที่มีปัญหาอยู่ว่า มีการทุจริตจริงหรือไม่ ระบบกติกาหลวมไปหรือไม่ ก็จะไปดูในทุกประเด็น ส่วนจะเข้าไปควบคุมอยู่นานเท่าไร คงไม่สามารถตอบได้ แต่เคยประเมินไว้ว่าอาจเข้าไปควบคุม 3 เดือน แต่ถ้าการตรวจสอบยังไม่เรียบร้อยก็ต้องขยายเวลาเพิ่ม จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่เกิดปัญหาอีก จึงจะส่งมอบอำนาจคืนให้มหาวิทยาลัย” พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายสุทธิพรอ้างว่า แม้จะมีการตั้งคณะกรรมการควบคุมเข้าไปดูแลมหาวิทยาลัย นายสุทธิพร ก็ยังมีตำแหน่งเป็นรักษาการอธิการบดี เพราะมีคำสั่งศาลปกครองคุ้มครองไว้อยู่นั้น พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการควบคุมไม่ได้เป็นการก้าวก่ายคำสั่งศาลแต่อย่างใด เพราะการใช้อำนาจตามมาตรา 86 (4) วรรค 2 ตั้งคณะกรรมการควบคุมเข้าไปเป็นคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยชุดใหม่ ก็ย่อมมีอำนาจในการแต่งตั้งผู้ที่มีความเหมาะสมขึ้นมาเป็นอธิการบดีได้ และจะส่งผลให้ตำแหน่งรักษาการของนายสุทธิพรหมดวาระลงไป
