นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 เปิดเผยว่า ปีนี้สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 5 แห่ง ในจังหวัดนครราชสีมา เหลือน้อยกว่าทุกปี ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างรัดกุม โดยจะเน้นไปที่น้ำสำหรับอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ซึ่งจากการสำรวจพบว่ายังมีเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำลำเชียงไกร อ.โนนสูง ฝ่าฝืนทำนาปรังอยู่กว่า 20,000 ไร่ ซึ่งล่าสุดปรากฏว่าได้รับความเสียหาย ต้นข้าวแห้งตายไปแล้วกว่าครึ่ง เนื่องจากไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว ขณะเดียวกันบริเวณลุ่มน้ำลำตะคอง ไล่มาตั้งแต่ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ และ อ.เมือง ก็มีปลูกข้าวนาปรังอยู่บ้างประปราย เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยทางชลประทาน ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างรัดกุม เน้นเฉพาะการส่งน้ำให้กับการทำประปาเป็นหลัก หากท้องถิ่น เทศบาล หรือ อบต. มีความต้องการน้ำดิบ ก็จะต้องนัดวัน เวลา เพื่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำตะคองให้พร้อมกันหลายแห่ง โดยระหว่างที่ส่งน้ำมาให้ตามสายน้ำลำตะคอง ก็จะขอความร่วมมือทางจังหวัด และกองทัพภาคที่ 2 เพื่อจัดชุดเฉพาะกิจร่วมกับเทศบาล หรือ อบต. ในพื้นที่ ติดตามน้ำตลอดเส้นทาง เพื่อไม่ให้มีเกษตรกรลักลอบสูบน้ำไปใช้เพื่อการเกษตรระหว่างทาง จนกว่าจะมีการสูบน้ำดิบเก็บไว้ทำประปาได้ครบทุกแห่ง ซึ่งระบบนี้ก็จะใช้กับการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 5 แห่ง โดยตนยืนยันว่าขณะนี้ทางสำนักงานชลประทานที่ 8 สามารถบริหารจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้ถึงฤดูฝนปีนี้แน่นอน