ร.ต.ท.อภินันท์ สุนันทะ พนักงานสอบสวนสน.หัวหมาก เจ้าของคดี พร้อมด้วยเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวนสน.หัวหมาก เดินทางเข้าตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่173 ซอยรามคำแหง12 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เพื่อสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีที่หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร น้าชายของ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร หรือตั๊น อดีตแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เข้าแจ้งความเหตุลักทรัพย์ในบ้านพัก หลังตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินในบ้านพักสูญหายไปหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา
ที่เกิดเหตุเป็นคฤหาสน์หรูเลขที่ 91, 171 และ 173 ปลูกติดกัน 3 หลังมีรั้วรอบขอบชิด มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนดูแลอย่างแน่นหนา โดยหลังที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 173 ที่เจ้าของบ้านเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ และมาทราบภายหลังว่าภายในห้องนอนพบร่องรอยการรื้อค้นและทรัพย์สินสูญหายไป
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีทรัพย์สินหายไปหลายรายการอาทิ นาฬิกายี่ห้อปาเต๊ะ และนาฬิกาแบรนด์เนมราคาแพง รวมทั้งสิ้น 11 เรือน เครื่องเพชร 3 รายการ ประกอบด้วย ต่างหูเพชร1คู่ และสร้อยเพชร2เส้น และเครื่องประดับหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) เข้ามาตรวจสอบและเก็บวัถตุพยานเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งไล่ตรวจสอบโรงรับจำนำบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาทรัพย์สินที่หายไป กระทั่งพบนาฬิกาเรือนหนึ่ง คาดว่าเป็นเรือนเดียวกับที่หายไปอยู่ในโรงรับจำนำย่านหัวหมาก โดยทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบขยายผลว่าเป็นนาฬิกาเรือนเดียวกันหรือไม่ และใครเป็นผู้นำมาจำนำไว้
รายงานข่าวแจ้งว่า จากคำให้การของหม่อมหลวงชโยทิต เจ้าของบ้าน ทราบว่าผู้ต้องสงสัยเป็นสองสามีภรรยา อดีตคนรับใช้ของบ้านหลังดังกล่าว ชื่อเล่น นายยุทธ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) และ นางแขก(ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง) ลาออกไปตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา คาดว่าทรัพย์สินดังกล่าวถูกทยอยขโมยออกไปประมาณ 2 เดือนแล้ว
ที่เกิดเหตุเป็นคฤหาสน์หรูเลขที่ 91, 171 และ 173 ปลูกติดกัน 3 หลังมีรั้วรอบขอบชิด มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนดูแลอย่างแน่นหนา โดยหลังที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 173 ที่เจ้าของบ้านเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ และมาทราบภายหลังว่าภายในห้องนอนพบร่องรอยการรื้อค้นและทรัพย์สินสูญหายไป
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีทรัพย์สินหายไปหลายรายการอาทิ นาฬิกายี่ห้อปาเต๊ะ และนาฬิกาแบรนด์เนมราคาแพง รวมทั้งสิ้น 11 เรือน เครื่องเพชร 3 รายการ ประกอบด้วย ต่างหูเพชร1คู่ และสร้อยเพชร2เส้น และเครื่องประดับหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) เข้ามาตรวจสอบและเก็บวัถตุพยานเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งไล่ตรวจสอบโรงรับจำนำบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาทรัพย์สินที่หายไป กระทั่งพบนาฬิกาเรือนหนึ่ง คาดว่าเป็นเรือนเดียวกับที่หายไปอยู่ในโรงรับจำนำย่านหัวหมาก โดยทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบขยายผลว่าเป็นนาฬิกาเรือนเดียวกันหรือไม่ และใครเป็นผู้นำมาจำนำไว้
รายงานข่าวแจ้งว่า จากคำให้การของหม่อมหลวงชโยทิต เจ้าของบ้าน ทราบว่าผู้ต้องสงสัยเป็นสองสามีภรรยา อดีตคนรับใช้ของบ้านหลังดังกล่าว ชื่อเล่น นายยุทธ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) และ นางแขก(ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง) ลาออกไปตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา คาดว่าทรัพย์สินดังกล่าวถูกทยอยขโมยออกไปประมาณ 2 เดือนแล้ว