บาห์เรนในวันพุธ(6ม.ค.) ได้ทลายเครือข่ายก่อการร้ายที่เชื่อมโยงกับอิหร่าน ซึ่งกำลังวางแผนโจมตีในประเทศ ซ้ำเติมวิกฤตด้านการทูตระหว่างเหล่าประเทศอาหรับในอ่าวเปอร์เซียกับเตหะราน ต่อกรณีซาอุดีอาระเบียประหารชีวิตนักการศาสนาคนสำคัญของฝ่ายชีอะห์และผู้ประท้วงอิหร่านบุกโจมตีสถานทูตริยาด
ถ้อยแถลงของกระทรวงมหาดไทยบาห์เรนกล่าวอ้างว่าเครือข่ายดังกล่าวเชื่อมโยงกับกองกำลังพิทักษ์ปฏิบัติของอิหร่านและนักรบฮิซบอลเลาะห์เลบานอนที่ได้รับการหนุนหลังจากเตหะราน โดยวางแผนโจมตีด้วยระเบิดหลายระลอกในประเทศที่ปกครองโดยสุหนี่
"เราสามารถระบุตัวสมาชิกขององค์กรก่อการร้ายลับและจับกุมตัวไว้ได้หลายคน" ถ้อยแถลงของกระทรวงมหาดไทยบาห์เรนที่เผยแพร่ผ่านทางสำนักข่าวบีเอ็นเอ พร้อมบอกว่ายังมีคนอื่นๆที่หลบหนีอยู่ ขณะที่ในหมู่ผู้ที่ถูกควบคุมตัวนั้นได้แก่คู่แฝดวัย 33 ปี นายอาลีและโมฮัมเมด ฟัคราวี ที่ถุูกระบุว่าเป็นแกนนำกลุ่ม
เครือข่ายนี้ถูกกล่าวอ้างว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนการ อัล-อัสตาร์ บริเกดส์ กลุ่มหัวรุนแรงที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงนัก ที่เคยออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุระเบิดหลายระลอกในประเทศแห่งนี้ที่มีชาวชีอะห์เป็นชนกลุ่มใหญ่ ในนั้นรวมถึงด้านนอกของมัสยิดสุหนี่ในปี 2013 ขณะที่ อัล-อัสตาร์ บริเกดส์ และฮิซบอลเลาะห์เลบานอน ล้วนแต่อยู่ในบัญชีก่อการร้ายของบาห์เรน
ถ้อยแถลงของกระทรวงมหาดไทยบาห์เรนระบุต่อว่าคู่แฝดเคยเดินทางไปยังอิหร่านหลายครั้งเพื่อขอแรงสนับสนุนด้านการเงินและส่งกำลังบำรุง โดยพึ่งพาความสัมพันธ์ของพวกเขากับเครือข่ายก่อการร้ายที่มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับกองกำลังพิทักษ์ปฏิบัติของอิหร่านและฮิซบอลเลาะห์
ถ้อยแถลงของกระทรวงมหาดไทยบาห์เรนกล่าวอ้างว่าเครือข่ายดังกล่าวเชื่อมโยงกับกองกำลังพิทักษ์ปฏิบัติของอิหร่านและนักรบฮิซบอลเลาะห์เลบานอนที่ได้รับการหนุนหลังจากเตหะราน โดยวางแผนโจมตีด้วยระเบิดหลายระลอกในประเทศที่ปกครองโดยสุหนี่
"เราสามารถระบุตัวสมาชิกขององค์กรก่อการร้ายลับและจับกุมตัวไว้ได้หลายคน" ถ้อยแถลงของกระทรวงมหาดไทยบาห์เรนที่เผยแพร่ผ่านทางสำนักข่าวบีเอ็นเอ พร้อมบอกว่ายังมีคนอื่นๆที่หลบหนีอยู่ ขณะที่ในหมู่ผู้ที่ถูกควบคุมตัวนั้นได้แก่คู่แฝดวัย 33 ปี นายอาลีและโมฮัมเมด ฟัคราวี ที่ถุูกระบุว่าเป็นแกนนำกลุ่ม
เครือข่ายนี้ถูกกล่าวอ้างว่ามีความเชื่อมโยงกับขบวนการ อัล-อัสตาร์ บริเกดส์ กลุ่มหัวรุนแรงที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงนัก ที่เคยออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุระเบิดหลายระลอกในประเทศแห่งนี้ที่มีชาวชีอะห์เป็นชนกลุ่มใหญ่ ในนั้นรวมถึงด้านนอกของมัสยิดสุหนี่ในปี 2013 ขณะที่ อัล-อัสตาร์ บริเกดส์ และฮิซบอลเลาะห์เลบานอน ล้วนแต่อยู่ในบัญชีก่อการร้ายของบาห์เรน
ถ้อยแถลงของกระทรวงมหาดไทยบาห์เรนระบุต่อว่าคู่แฝดเคยเดินทางไปยังอิหร่านหลายครั้งเพื่อขอแรงสนับสนุนด้านการเงินและส่งกำลังบำรุง โดยพึ่งพาความสัมพันธ์ของพวกเขากับเครือข่ายก่อการร้ายที่มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับกองกำลังพิทักษ์ปฏิบัติของอิหร่านและฮิซบอลเลาะห์