นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะให้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อตั้งคณะกรรมการปรองดอง เนื่องจากการปรองดองเป็นเรื่องของจิตใจ ไม่สามารถบังคับด้วยกฎหมาย โดยได้ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาหัวหน้า คสช. ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน อาทิ การตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน แก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย แต่เรื่องของการสร้างความปรองดองนั้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้น ทั้งนี้ เห็นว่าหากจำเป็นต้องบัญญัติเป็นกฎหมาย ควรจะเป็นในลักษณะของกฎหมายทั่วไป ไม่ใช่การกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ เพราะหากสถานการณ์เปลี่ยน อาจทำให้มาตราดังกล่าวล้าสมัยได้
ขณะเดียวกัน นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งพักราชการ 59 คน ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ว่า ในขณะนี้ยังไม่ถือว่าเป็นผู้ที่มีความผิด เพราะความผิดของข้าราชการมีทั้งเรื่องการทุจริตและการประพฤติมิชอบ ซึ่งรายชื่อส่วนใหญ่จะเข้าข่ายลักษณะการประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะกรณีของข้าราชการท้องถิ่นกว่า 30 คนในจังหวัดมหาสารคาม ที่มีรายชื่อนั้น พบว่าถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดสอบคัดเลือกบุคคลบรรจุเข้ารับราชการ ซึ่งจำเป็นจะต้องตรวจสอบว่าเข้าข่าย เอื้อผลประโยชน์หรือไม่
นายวิษณุ ยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดอบรมของข้าราชการ เพราะถือว่าเป็นการพัฒนาบุคคลากรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญมากขึ้น แต่ทั้งนี้จำเป็นจะต้องจัดรูปแบบการอบรมที่เหมาะสม ไม่เปิดโอกาสให้หน่วยงาน หรือองค์กรภายนอก เข้าร่วมมากเกินไป จนอาจทำให้ถูกครหาว่าแสวงผลประโยชน์
ขณะเดียวกัน นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งพักราชการ 59 คน ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ว่า ในขณะนี้ยังไม่ถือว่าเป็นผู้ที่มีความผิด เพราะความผิดของข้าราชการมีทั้งเรื่องการทุจริตและการประพฤติมิชอบ ซึ่งรายชื่อส่วนใหญ่จะเข้าข่ายลักษณะการประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะกรณีของข้าราชการท้องถิ่นกว่า 30 คนในจังหวัดมหาสารคาม ที่มีรายชื่อนั้น พบว่าถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดสอบคัดเลือกบุคคลบรรจุเข้ารับราชการ ซึ่งจำเป็นจะต้องตรวจสอบว่าเข้าข่าย เอื้อผลประโยชน์หรือไม่
นายวิษณุ ยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดอบรมของข้าราชการ เพราะถือว่าเป็นการพัฒนาบุคคลากรให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญมากขึ้น แต่ทั้งนี้จำเป็นจะต้องจัดรูปแบบการอบรมที่เหมาะสม ไม่เปิดโอกาสให้หน่วยงาน หรือองค์กรภายนอก เข้าร่วมมากเกินไป จนอาจทำให้ถูกครหาว่าแสวงผลประโยชน์