พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เปิดเผยความคืบหน้าคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นจำกัด หลังจาก ปปง. ได้ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาทว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาหลักเกณฑ์เรื่องการคืนทรัพย์ คาดว่าช่วงต้นปี 59 จะสามารถดำเนินการตามระเบียบ หลักเกณฑ์ใหม่ได้ที่ให้คืนทรัพย์กับผู้เสียหายได้ ระหว่างคดียังไม่สิ้นสุด สืบเนื่องจากการแก้ไขเพิ่มเติมมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน ครอบคลุมหลายคดีที่มีผู้เสียหาย เช่น คดียักยอกทรัพย์ ซึ่งเดิมทรัพย์สินที่ปปง.ยึดและอายัดไว้จะนำออกขายทอดตลาด และตกเป็นทรัพย์ของแผ่นดิน เช่น คดียาเสพติด คดีบุกรุกป่า แต่ปัจจุบันพบคดีเกี่ยวกับทรัพย์ ประชาชนถูกฉ้อโกง ซึ่งเป็นคดีที่มีประชาชนเป็นผู้เสียหาย จึงจำเป็นต้องมีการเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การคืนทรัพย์เพื่อเยียวยาความเสียหายบางส่วน
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวอีกว่า หลังมีหลักเกณฑ์เรื่องการคืนทรัพย์ ปปง. จะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่เป็นกลุ่มผู้เสียหายยื่นคำร้องก่อนส่งให้อัยการพิจารณายื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าจะคืนทรัพย์สินหรือให้ขายทอดตลาดทรัพย์แล้วเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหายแทน โดยนอกจากคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯแล้วยังมีคดีสำคัญที่เข้าข่ายต้องเร่งรัดคืนทรัพย์สินให้ผู้เสียหายเพื่อนำทรัพย์ไปเยียวยาผู้เสียหาย ได้แก่ คดียักยอกทรัพย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) และคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวอีกว่า หลังมีหลักเกณฑ์เรื่องการคืนทรัพย์ ปปง. จะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่เป็นกลุ่มผู้เสียหายยื่นคำร้องก่อนส่งให้อัยการพิจารณายื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าจะคืนทรัพย์สินหรือให้ขายทอดตลาดทรัพย์แล้วเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหายแทน โดยนอกจากคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯแล้วยังมีคดีสำคัญที่เข้าข่ายต้องเร่งรัดคืนทรัพย์สินให้ผู้เสียหายเพื่อนำทรัพย์ไปเยียวยาผู้เสียหาย ได้แก่ คดียักยอกทรัพย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง(สจล.) และคดีแชร์ลูกโซ่ยูฟัน
