พล.ต.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า ตามที่ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรษ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง และ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก และรอง ผอ.รมน. ได้มอบให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์และเพิ่มมาตรการระวังป้องกันเหตุร้ายต่าง ๆ ห้วงเทศกาลปีใหม่ 2559 และเพื่อเตรียมการรองรับสถานการณ์ด้านความมั่นคง กอ.รมน.พร้อมร่วมมือกับทุกส่วนราชการ ในการบูรณาการและประสานงานด้านการข่าวร่วมกันเฝ้าระวังเหตุผิดปกติต่างๆ ด้วยความไม่ประมาท และให้ความสำคัญกับมาตรการเชิงป้องกันมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ข้อมูลของหน่วยงานด้านการข่าวภายใต้ความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับมิตรประเทศได้ประเมินสถานการณ์แล้วว่ายังไม่พบสิ่งบอกเหตุหรือสัญญาณใดๆ ในการก่อเหตุร้าย
ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้เกิดความมั่นใจว่า มาตรการระวังป้องกันและรักษาความปลอดภัยของไทยมีความเข้มงวดมากขึ้น กับขอความร่วมมือจากประชาชนทั่วไปร่วมกันป้องกันเหตุร้ายด้วยการช่วยสอดส่องดูแลพื้นที่ของตนเอง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือวัตถุต้องสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการพิสูจน์ทราบทันที
ทั้งนี้ องค์กรภาครัฐทุกหน่วยที่มีหน่วยข่าวของตนเองอยู่แล้วจะช่วยกันดูแลสถานการณ์ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง สำหรับหน่วยปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่นั้น นอกจากสนธิกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วม จัดตั้งจุดตรวจ/ด่านตรวจ เพื่อป้องปรามการเกิดเหตุการณ์แล้ว ยังได้กำชับให้เพิ่มสายตรวจมากขึ้นในพื้นที่เสี่ยงการเกิดภัยต่างๆ เช่น สถานที่จัดกิจกรรมที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก แหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในส่วนของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังคงปรากฏสถานการณ์ด้านความมั่นคงเฉพาะพื้นที่นั้น ได้มอบให้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการก่อเหตุร้าย ทั้งก่อนและหลังห้วงเทศกาล ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทางการท่องเที่ยวและพื้นที่เชิงสัญลักษณ์การก่อเหตุในอดีต เพื่อสกัดกั้นความพยายามก่อเหตุควบคู่กับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่จะเดินทางมาร่วมเฉลิมฉลองในห้วงเทศกาลปีใหม่
ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้เกิดความมั่นใจว่า มาตรการระวังป้องกันและรักษาความปลอดภัยของไทยมีความเข้มงวดมากขึ้น กับขอความร่วมมือจากประชาชนทั่วไปร่วมกันป้องกันเหตุร้ายด้วยการช่วยสอดส่องดูแลพื้นที่ของตนเอง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือวัตถุต้องสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการพิสูจน์ทราบทันที
ทั้งนี้ องค์กรภาครัฐทุกหน่วยที่มีหน่วยข่าวของตนเองอยู่แล้วจะช่วยกันดูแลสถานการณ์ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง สำหรับหน่วยปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่นั้น นอกจากสนธิกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วม จัดตั้งจุดตรวจ/ด่านตรวจ เพื่อป้องปรามการเกิดเหตุการณ์แล้ว ยังได้กำชับให้เพิ่มสายตรวจมากขึ้นในพื้นที่เสี่ยงการเกิดภัยต่างๆ เช่น สถานที่จัดกิจกรรมที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก แหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในส่วนของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังคงปรากฏสถานการณ์ด้านความมั่นคงเฉพาะพื้นที่นั้น ได้มอบให้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการก่อเหตุร้าย ทั้งก่อนและหลังห้วงเทศกาล ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทางการท่องเที่ยวและพื้นที่เชิงสัญลักษณ์การก่อเหตุในอดีต เพื่อสกัดกั้นความพยายามก่อเหตุควบคู่กับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่จะเดินทางมาร่วมเฉลิมฉลองในห้วงเทศกาลปีใหม่