นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์แล้ว ส่งผลให้ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชซึ่งถือเป็นองค์ประมุขแห่งคณะสงฆ์ไทยว่างลง โดยขั้นตอนการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขพ.ศ.2535ในหมวด 1 มาตรา 7 ระบุให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดทางสมณศักดิ์ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช
ทั้งนี้ปัจจุบันสมเด็จพระราชาคณะในประเทศไทยมีทั้งสิ้น 8 รูป แบ่งเป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย 4รูป และฝ่ายธรรมยุต 4 รูป โดยสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ เรียงตามลำดับ ดังนี้ อันดับ 1.สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มหานิกาย ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2538 อันดับ 2.สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) วัดสัมพันธวงศาราม ธรรมยุต ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2544 อันดับ 3 สมเด็จพระมหามุนีวงศ์(อัมพร อมฺพโร) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ธรรมยุต ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2552 อันดับ 4 สมเด็จพระวันรัต(จุนท์พรหมคุตฺโต) วัดบวรนิเวศวิหาร ธรรมยุต ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2552 แต่อาวุโสน้อยกว่าสมเด็จพระมหามุนีวงศ์
ส่วนสมเด็จพระราชาคณะ อาวุโสอันดับ 5 สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(วีระ ภทฺทจารี) วัดสุทัศนเทพวราราม มหานิกาย ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2553 อันดับ 6 สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย) วัดเทพศิรินทราวาส ธรรมยุต ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี2553 แต่อาวุโสน้อยกว่าสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ อันดับ 7 สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) วัดพิชยญาติการาม มหานิกาย ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2554 และอันดับ 8 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) วัดไตรมิตรวิทยาราม มหานิกาย ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2557 ทั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกแล้ว ทางมหาเถรสมาคม(มส.)จะมีการประชุมเพื่อเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดทางสมณศักดิ์ในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ปัจจุบันสมเด็จพระราชาคณะในประเทศไทยมีทั้งสิ้น 8 รูป แบ่งเป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย 4รูป และฝ่ายธรรมยุต 4 รูป โดยสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ เรียงตามลำดับ ดังนี้ อันดับ 1.สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มหานิกาย ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2538 อันดับ 2.สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) วัดสัมพันธวงศาราม ธรรมยุต ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2544 อันดับ 3 สมเด็จพระมหามุนีวงศ์(อัมพร อมฺพโร) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ธรรมยุต ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2552 อันดับ 4 สมเด็จพระวันรัต(จุนท์พรหมคุตฺโต) วัดบวรนิเวศวิหาร ธรรมยุต ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2552 แต่อาวุโสน้อยกว่าสมเด็จพระมหามุนีวงศ์
ส่วนสมเด็จพระราชาคณะ อาวุโสอันดับ 5 สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(วีระ ภทฺทจารี) วัดสุทัศนเทพวราราม มหานิกาย ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2553 อันดับ 6 สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย) วัดเทพศิรินทราวาส ธรรมยุต ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี2553 แต่อาวุโสน้อยกว่าสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ อันดับ 7 สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) วัดพิชยญาติการาม มหานิกาย ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2554 และอันดับ 8 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) วัดไตรมิตรวิทยาราม มหานิกาย ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะปี 2557 ทั้งนี้หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกแล้ว ทางมหาเถรสมาคม(มส.)จะมีการประชุมเพื่อเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดทางสมณศักดิ์ในเร็วๆ นี้