นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่บุคลากรทางการแพทย์มีความวิตกกังวลต่อระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการใช้มาตรการบังคับทางปกครองสำหรับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ที่เพิ่งประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า เพื่อป้องกันการเข้าใจคลาดเคลื่อนได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายถอนระเบียบออกมาก่อน เพื่อปรับปรุงโดยตั้งคณะกรรมการดำเนินการพิจารณาทบทวน เพื่อให้การบังคับใช้เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ต้องการให้มีผลบังคับใช้กับผู้ที่ทำการทุจริตยักยอกทรัพย์สินของทางราชการ เพื่อนำทรัพย์สินของทางราชการกลับมา ซึ่งขณะนี้มีคดีที่ค้างอยู่ประมาณ 21 คดี ตั้งแต่ปี 2540 เกือบ 100% เป็นกรณียักยอกทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ตรงนี้จะตั้งคณะกรรมการพิจารณาเป็นรายกรณีไป คล้ายๆกับการสอบวินัยร้ายแรง โดยอิงจากกฎหมายที่มีอยู่คือมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และมาตรา 57 ตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง พ.ศ.2539ซึ่งทางบุคลากรทางการแพทย์มีความกังวลใจในบางข้อความเช่น คำว่าประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เพราะกลัวว่าจะทำให้ถูกไล่เบี้ยในชั้นศาล แต่จริงๆ แล้วระเบียบดังกล่าวออกมา เพื่อต้องการตามทรัพย์สินของรัฐที่เสียไปจากการถูกทุจริตยักยอกเท่านั้น แต่เพื่อความสบายใจจึงถอนออกมาพิจารณาปรับปรุงให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน
อย่างไรก็ตาม ตรงนี้จะตั้งคณะกรรมการพิจารณาเป็นรายกรณีไป คล้ายๆกับการสอบวินัยร้ายแรง โดยอิงจากกฎหมายที่มีอยู่คือมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และมาตรา 57 ตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง พ.ศ.2539ซึ่งทางบุคลากรทางการแพทย์มีความกังวลใจในบางข้อความเช่น คำว่าประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เพราะกลัวว่าจะทำให้ถูกไล่เบี้ยในชั้นศาล แต่จริงๆ แล้วระเบียบดังกล่าวออกมา เพื่อต้องการตามทรัพย์สินของรัฐที่เสียไปจากการถูกทุจริตยักยอกเท่านั้น แต่เพื่อความสบายใจจึงถอนออกมาพิจารณาปรับปรุงให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน