ผู้บัญชาการทหารเรือของสหรัฐฯ เตือนในวันอังคาร(15ธ.ค.) ประเทศทั้งหลายที่มีข้อขัดแย้งในทะเลจีนใต้อาจเข้าสู่บรรยากาศในการแข่งขันการสะสมอาวุธ ขณะที่สิ่งปลูกสร้างทางทหารบนเกาะพิพาทต่างๆก็ยิ่งแต่ซ้ำเติมให้สถานการณ์ความตึงเครียดเลวร้ายลงไปอีก
จีน, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, ไต้หวัน และบรูไน ล้วนแต่กล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำบางส่วน แนวหินปะการังและแนวหินโสโครก ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญและพลุกพล่านมากที่สุดของโลก
พลเรือเอกสกอตต์ สวิฟต์ ผู้บัญชาการกองเรือสหรัฐฯประจำภูมิภาคแปซิฟิก เรียกร้องชาติต่างๆที่เกี่ยวข้องแสวงหาอำนาจชี้ขาดเพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางทะเลดังกล่าว "ความกังวลของผมคือหลังจากมีช่วงเวลาแห่งสันติและความเจริญรุ่งเรืองมาหลายทศวรรษ บางทีเราอาจได้เห็นการหวนกับมาของความกระสับกระส่ายเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์ในภูมิภาคนี้"
เขากล่าวต่อว่า "ผู้อ้างสิทธิ์หรือไม่ได้อ้างสิทธิ์่ต่างกำลังแปรเปลี่ยนส่วนแบ่งขนาดใหญ่ในทรัพย์สมบัติของชาติเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพเรือให้ก้าวล้ำไปไกลเกินความจำเป็นในการป้องกันตนเอง" พร้อมระบุว่า "เครื่องบินและเรือทั้งหลายในน่านน้ำและน่านฟ้าที่อยู่นอกเขตควบคุมของจีน ต่างได้รับคำเตือนที่มากเกินพอดีจากปักกิ่ง"
จีน, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, ไต้หวัน และบรูไน ล้วนแต่กล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำบางส่วน แนวหินปะการังและแนวหินโสโครก ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญและพลุกพล่านมากที่สุดของโลก
พลเรือเอกสกอตต์ สวิฟต์ ผู้บัญชาการกองเรือสหรัฐฯประจำภูมิภาคแปซิฟิก เรียกร้องชาติต่างๆที่เกี่ยวข้องแสวงหาอำนาจชี้ขาดเพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางทะเลดังกล่าว "ความกังวลของผมคือหลังจากมีช่วงเวลาแห่งสันติและความเจริญรุ่งเรืองมาหลายทศวรรษ บางทีเราอาจได้เห็นการหวนกับมาของความกระสับกระส่ายเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์ในภูมิภาคนี้"
เขากล่าวต่อว่า "ผู้อ้างสิทธิ์หรือไม่ได้อ้างสิทธิ์่ต่างกำลังแปรเปลี่ยนส่วนแบ่งขนาดใหญ่ในทรัพย์สมบัติของชาติเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพเรือให้ก้าวล้ำไปไกลเกินความจำเป็นในการป้องกันตนเอง" พร้อมระบุว่า "เครื่องบินและเรือทั้งหลายในน่านน้ำและน่านฟ้าที่อยู่นอกเขตควบคุมของจีน ต่างได้รับคำเตือนที่มากเกินพอดีจากปักกิ่ง"