นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมในการเตรียมตัวรับมือกับปัญหาภัยแล้งในปี 2559 ว่า จากการประสานข้อมูลกับกรมชลประทาน พบว่าภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคใต้ มีปริมาน้ำในเขื่อนหลักมาก จึงประเมินว่าไม่น่ามีปัญหา ยกเว้นในส่วนของพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความเสี่ยงสูงที่จะประสบปัญหาภัยแล้งในปีหน้า เนื่องจากมีปริมาณน้ำในเขื่อนหลักน้อย
ทั้งนี้ ปี 2559 ปริมาณน้ำในเขื่อนน้อยกว่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และจากการจัดสรรน้ำของกรมชลประทานจะให้ความสำคัญกับน้ำเพื่อชุมชน เกษตรกรรม ท่องเที่ยว สำหรับอุตสาหกรรมจะเป็นลำดับสุดท้าย จึงต้องเตรียมการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้สำหรับภาคอุตสาหกรรม และแก้ไขปัญหาน้ำเสียในฤดูแล้งเนื่องจากน้ำในแม่น้ำลำคลองมีน้อย จากการที่เขื่อนมีปริมาณน้ำน้อย จะทำให้เขื่อนปล่อยน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศท้ายเขื่อนในปริมาณที่น้อยลงซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณน้ำและคุณภาพน้ำของแม่น้ำ และหากโรงงานอุตสาหกรรมระบายน้ำทิ้งลงสู่แม่น้ำในปริมาณมาก แม้ว่าจะเป็นไปตามค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดก็อาจมีความเสี่ยงส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำของแม่น้ำได้ จึงต้องวางมาตรการป้องกันไว้ล่วงหน้า
ทั้งนี้ ปี 2559 ปริมาณน้ำในเขื่อนน้อยกว่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และจากการจัดสรรน้ำของกรมชลประทานจะให้ความสำคัญกับน้ำเพื่อชุมชน เกษตรกรรม ท่องเที่ยว สำหรับอุตสาหกรรมจะเป็นลำดับสุดท้าย จึงต้องเตรียมการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้สำหรับภาคอุตสาหกรรม และแก้ไขปัญหาน้ำเสียในฤดูแล้งเนื่องจากน้ำในแม่น้ำลำคลองมีน้อย จากการที่เขื่อนมีปริมาณน้ำน้อย จะทำให้เขื่อนปล่อยน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศท้ายเขื่อนในปริมาณที่น้อยลงซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณน้ำและคุณภาพน้ำของแม่น้ำ และหากโรงงานอุตสาหกรรมระบายน้ำทิ้งลงสู่แม่น้ำในปริมาณมาก แม้ว่าจะเป็นไปตามค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดก็อาจมีความเสี่ยงส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำของแม่น้ำได้ จึงต้องวางมาตรการป้องกันไว้ล่วงหน้า