นายภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่กรรมการ กกต.หลายคนปฏิเสธเรื่องการล้วงลูก แต่เป็นการกำกับนโยบาย ว่า หากเป็นการกำกับนโยบาย ก็ควรส่งงานให้เลขาธิการดำเนินการ ไม่ใช่ลงมาทำเองหรือส่งคนของตัวเองเข้ามาทำ และให้รองเลขาธิการมาของบประมาณจากเลขาธิการเพื่อไปดำเนินการเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ กกต.ก็รู้ว่ามีการล้วงลูก หากไม่มีการล้วงลูก ตนจะเอาหัวเดินต่างเท้าเลย
อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ จะมีหนังสือเลิกจ้างส่งมาถึงตน จากนั้นตนจะยื่นอุทธรณ์ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าไม่ได้หวังให้ กกต.กลับมติ และไม่หวังที่จะกลับไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการ แต่ต้องการฟ้องศาลปกครองเพื่อให้เป็นบทเรียนแก่สำนักงาน กกต. และขอเรียกร้องให้มีการเขียนกฎหมายให้มีเส้นแบ่งระหว่างกรรมการ กกต.กับสำนักงานฯ ให้ชัดเจน
ส่วนกรณีที่นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.เตือนว่าหากมีการพูดข้อความใดที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท ก็จะฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาททันที นายภุชงค์ กล่าวว่า ยินดี ก็ว่ากันไป เพราะสิ่งที่ตนพูดไป ตนต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ว่าตนอยากขึ้นศาล แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ตนก็ต้องพูดเพื่อให้สำนักงาน กกต.มีความโปร่งใส
อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ จะมีหนังสือเลิกจ้างส่งมาถึงตน จากนั้นตนจะยื่นอุทธรณ์ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าไม่ได้หวังให้ กกต.กลับมติ และไม่หวังที่จะกลับไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการ แต่ต้องการฟ้องศาลปกครองเพื่อให้เป็นบทเรียนแก่สำนักงาน กกต. และขอเรียกร้องให้มีการเขียนกฎหมายให้มีเส้นแบ่งระหว่างกรรมการ กกต.กับสำนักงานฯ ให้ชัดเจน
ส่วนกรณีที่นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.เตือนว่าหากมีการพูดข้อความใดที่เข้าข่ายหมิ่นประมาท ก็จะฟ้องร้องข้อหาหมิ่นประมาททันที นายภุชงค์ กล่าวว่า ยินดี ก็ว่ากันไป เพราะสิ่งที่ตนพูดไป ตนต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ว่าตนอยากขึ้นศาล แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ตนก็ต้องพูดเพื่อให้สำนักงาน กกต.มีความโปร่งใส
