นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านการเลือกตั้ง กล่าวถึง กรณี กกต.มีมติเลิกจ้าง นายภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาธิการกกต. ว่า ตำแหน่งเลขาธิการกกต.ไม่ใช่ตำแหน่งประจำ แต่เป็นพนักงานจ้างมาบริหาร มีสัญญาจ้าง 5 ปี และทุกปีต้องประเมินผลงาน ถ้าประเมินผลงานแล้วต่ำกว่า 60 เปอร์เซ็นต์จะไม่ต่อสัญญา กกต.ไม่ได้รังแกนายภุชงค์ และตำแหน่งเลขาฯกกต. ได้รับเงินเดือนสูงกว่ากรรมการกกต.ทุกคน เราหวังว่าถ้าจ้างอัตราที่สูงแล้วจะได้คนที่มีความสามารถทำงาน แต่เมื่อประเมินทั้ง 4 ด้าน กกต.ทุกคนเห็นว่าไม่ผ่านตามที่กำหนดจึงเลิกจ้าง เพราะเลขาฯกกต.เป็นคนเสนอโครงการเอง 5 โครงการและจะทำสำเร็จในปี 2558 แต่ทุกวันนี้ยังไม่เห็นอะไร มันมีปัญหาหลายอย่าง กกต.ไม่เคยล้วงลูก แต่ให้นโยบายและให้ทำงานให้เสร็จตามกำหนดเวลาเท่านั้น แต่เลขาฯกกต.อาจจะคิดว่าล้วงลูก
"ถ้าเลขาฯกกต.คิดว่าการที่กกต.กำกับและมอบนโยบาย เป็นการล้วงลูก แล้วอยู่มากี่ปีแล้ว ไม่เคยทำอะไรสำเร็จสักอย่าง เมื่อทำงานไม่สำเร็จจะให้อยู่ในตำแหน่ง กินเงินเดือนสูงๆทำไม เลขาฯกกต.ไม่รู้จักทำงานเชิงรุก ทำแต่งานประจำ เคยทำอะไรก็ทำแต่อย่างนั้น มันไม่เกิดผลสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงองค์กร ถ้ากกต.ไม่ไปกำกับที่ผ่านจะมีอะไรสำเร็จหรือไม่ เลขาฯกกต.แถลงข่าวแรงเกินไป ไม่เคารพผู้บังคับบัญชาเลย และกกต.ทุกคน มีที่ปรึกษา 1 คน ผู้เชี่ยวชาญ 3 คน เลขาประจำตัว 1 คน รองเลขาฯประจำตัว 2 คน และแต่ละตำแหน่งไม่ได้คัดเลือกตามใจแต่มีการคัดเลือกตามความรู้ความสามารถของแต่ละคน" นายสมชัยกล่าว
"ถ้าเลขาฯกกต.คิดว่าการที่กกต.กำกับและมอบนโยบาย เป็นการล้วงลูก แล้วอยู่มากี่ปีแล้ว ไม่เคยทำอะไรสำเร็จสักอย่าง เมื่อทำงานไม่สำเร็จจะให้อยู่ในตำแหน่ง กินเงินเดือนสูงๆทำไม เลขาฯกกต.ไม่รู้จักทำงานเชิงรุก ทำแต่งานประจำ เคยทำอะไรก็ทำแต่อย่างนั้น มันไม่เกิดผลสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงองค์กร ถ้ากกต.ไม่ไปกำกับที่ผ่านจะมีอะไรสำเร็จหรือไม่ เลขาฯกกต.แถลงข่าวแรงเกินไป ไม่เคารพผู้บังคับบัญชาเลย และกกต.ทุกคน มีที่ปรึกษา 1 คน ผู้เชี่ยวชาญ 3 คน เลขาประจำตัว 1 คน รองเลขาฯประจำตัว 2 คน และแต่ละตำแหน่งไม่ได้คัดเลือกตามใจแต่มีการคัดเลือกตามความรู้ความสามารถของแต่ละคน" นายสมชัยกล่าว