รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.26 น. วันที่ 9 ธันวาคม เกิดเหตุไฟไหม้ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู (สกสค.) สาขาเอกมัย ตั้งอยู่ใกล้กับท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ
จากการตรวจสอบ พบว่า เพลิงไหม้ที่อาคารสูง 3 ชั้น ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สาขาเอกมัย พบแสงเพลิงอยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ติดค้างอยู่ภายในจุดเกิดเหตุ ซึ่งได้รับอาการบาดเจ็บสำลักควันเพียงเล็กน้อย จำนวน 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือน.ส.สุภัคตราภรณ์ วงศ์สุวรรณ อายุ 36 ปี โดยไม่ใช่พนักงานภายในร้านดังกล่าวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่สน.ทองหล่อ
หลังเพลิงได้สงบลงและเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ พร้อมเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ และยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้
ด้านนายปวิช ผังวิวัฒน์ อายุ 57 ปี ผู้จัดการร้านดังกล่าว กล่าวว่า โดยปกติที่ร้านจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00 น. - 17.00 น. ของวันจันทร์ - วันเสาร์ โดยก่อนเกิดเหตุ หลังจากที่ตนปิดร้านก็ได้รับคำสั่งจากทางเจ้าของร้านว่า ในวันพรุ่งนี้ทางร้านจะปิดตัวลงเพิ่มอีก 1 วัน เนื่องจากเป็นวันรัฐธรรมนูญ จึงส่งผลให้ทางร้านต้องปิดให้บริการเป็นระยะเวลานานกว่า 4 วัน ตนจึงตัดสินใจเดินทางกลับเข้ามาเช็คระบบไฟและตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งโดยไม่พบสิ่งผิดปกติอย่างใด
นายปวิช กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้โทรศัพท์แจ้งเข้ามาว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในตัวอาคารดังกล่าว ตนจึงเดินทางกลับเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งก่อนทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบว่าพบผู้ติดค้างอยู่ภายในตัวอาคารโดยไม่ใช่พนักงานของที่ร้านแต่อย่างใด
ต่อมา พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 เดินทางมาแถลงข่าวจับกุมตัวผู้วางเพลิงในครั้งนี้โดย จากการสอบสวน น.ส.สุภัคตราภรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุวางเพลิงจริง เนื่องจากไม่สามารถออกมาจากตัวอาคารได้ โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลา 16.00 น. ตนได้แฝงตัวเข้ามาเพื่อหาทางขโมยกล่องรับบริจาคของเด็กกำพร้า และชิงทรัพย์ของมีค่าต่างๆ โดยแอบอยู่บริเวณชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นห้องเก็บกล่องพัสดุเปล่า จนกระทั่งตนเห็นผู้ดูแลได้ปิดร้านลงจึงลงมือก่อนเหตุ เมื่อได้ทรัพย์สินเป็นที่เรียบร้อยจึงตัดสินใจจะออกจากตัวอาคารแต่ไม่สามารถออกมาได้จึงใช้ไฟแช็กที่เตรียมมาเผากับแผ่นรองเม้าส์คอมพิวเตอร์เพื่อให้เกิดประกายไฟจะได้มีคนเข้ามาช่วยเหลือแต่เพลิงเกิดลุกลามอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ดังกล่าว
"ตนเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ประกอบด้วยตู้บริจาคที่วัดสุ่น ลาดพร้าว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ภายในโรงพยาบาลเวชธานี สาขาลาดพร้าว ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขารามคำแหง ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สาขาลาดพร้าว ก่อเหตุเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเน้นตู้บริจาคต่างๆ ซึ่งเงินที่ได้จะนำไปเลี้ยงลูกที่อยู่ที่บ้าน" เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ และวางเพลิง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ภายในศึกษาภัณฑ์ สาขาลาดพร้าว โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ผู้ต้องหารายนี้เพิ่งออกจากเรือนจำในคดีลักทรัพย์ เมื่อ 7 เดือนก่อนหน้านี้
จากการตรวจสอบ พบว่า เพลิงไหม้ที่อาคารสูง 3 ชั้น ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สาขาเอกมัย พบแสงเพลิงอยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำดับเพลิง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ติดค้างอยู่ภายในจุดเกิดเหตุ ซึ่งได้รับอาการบาดเจ็บสำลักควันเพียงเล็กน้อย จำนวน 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือน.ส.สุภัคตราภรณ์ วงศ์สุวรรณ อายุ 36 ปี โดยไม่ใช่พนักงานภายในร้านดังกล่าวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่สน.ทองหล่อ
หลังเพลิงได้สงบลงและเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ พร้อมเข้าตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ และยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้
ด้านนายปวิช ผังวิวัฒน์ อายุ 57 ปี ผู้จัดการร้านดังกล่าว กล่าวว่า โดยปกติที่ร้านจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00 น. - 17.00 น. ของวันจันทร์ - วันเสาร์ โดยก่อนเกิดเหตุ หลังจากที่ตนปิดร้านก็ได้รับคำสั่งจากทางเจ้าของร้านว่า ในวันพรุ่งนี้ทางร้านจะปิดตัวลงเพิ่มอีก 1 วัน เนื่องจากเป็นวันรัฐธรรมนูญ จึงส่งผลให้ทางร้านต้องปิดให้บริการเป็นระยะเวลานานกว่า 4 วัน ตนจึงตัดสินใจเดินทางกลับเข้ามาเช็คระบบไฟและตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งโดยไม่พบสิ่งผิดปกติอย่างใด
นายปวิช กล่าวต่อว่า จากนั้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้โทรศัพท์แจ้งเข้ามาว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในตัวอาคารดังกล่าว ตนจึงเดินทางกลับเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งก่อนทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบว่าพบผู้ติดค้างอยู่ภายในตัวอาคารโดยไม่ใช่พนักงานของที่ร้านแต่อย่างใด
ต่อมา พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 เดินทางมาแถลงข่าวจับกุมตัวผู้วางเพลิงในครั้งนี้โดย จากการสอบสวน น.ส.สุภัคตราภรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุวางเพลิงจริง เนื่องจากไม่สามารถออกมาจากตัวอาคารได้ โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลา 16.00 น. ตนได้แฝงตัวเข้ามาเพื่อหาทางขโมยกล่องรับบริจาคของเด็กกำพร้า และชิงทรัพย์ของมีค่าต่างๆ โดยแอบอยู่บริเวณชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นห้องเก็บกล่องพัสดุเปล่า จนกระทั่งตนเห็นผู้ดูแลได้ปิดร้านลงจึงลงมือก่อนเหตุ เมื่อได้ทรัพย์สินเป็นที่เรียบร้อยจึงตัดสินใจจะออกจากตัวอาคารแต่ไม่สามารถออกมาได้จึงใช้ไฟแช็กที่เตรียมมาเผากับแผ่นรองเม้าส์คอมพิวเตอร์เพื่อให้เกิดประกายไฟจะได้มีคนเข้ามาช่วยเหลือแต่เพลิงเกิดลุกลามอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ดังกล่าว
"ตนเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ประกอบด้วยตู้บริจาคที่วัดสุ่น ลาดพร้าว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ภายในโรงพยาบาลเวชธานี สาขาลาดพร้าว ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขารามคำแหง ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สาขาลาดพร้าว ก่อเหตุเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเน้นตู้บริจาคต่างๆ ซึ่งเงินที่ได้จะนำไปเลี้ยงลูกที่อยู่ที่บ้าน" เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ และวางเพลิง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ภายในศึกษาภัณฑ์ สาขาลาดพร้าว โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพตัวผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ผู้ต้องหารายนี้เพิ่งออกจากเรือนจำในคดีลักทรัพย์ เมื่อ 7 เดือนก่อนหน้านี้