นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ประธานมูลนิธิมัลลิกา พร้อม นายสายแจ้ง รื่นกลิ่น ประธานกลุ่มองค์กรเครือข่ายนิติบุคคลเพื่อคนพิการ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. หลังรัฐบาลประกาศใช้กฎหมายมาตรา 44 ในการจัดสรรสลากกินแบ่งรัฐบาล จนทำให้ผู้พิการที่ค้าสลากได้รับผลกระทบ ดังนั้นทางกลุ่มจึงขอให้รัฐบาลดำเนินการจัดสรรสลากกินแบ่งรัฐบาลให้องค์กรคนพิการที่ขึ้นทะเบียน และผ่านการคัดกรอง และให้ผ่อนปรนเวลารับสลาก เนื่องจากผู้พิการมีข้อจำกัดในการเดินทาง ซึ่งอาจล่าช้ากว่าเวลาที่กองสลากกำหนดกรอบเวลา พร้อมตั้งข้อสังเกตการยึดโควตาสลากที่รวดเร็วอาจจะนำสลากส่วนนี้ไปหาผลประโยชน์ได้ รวมถึงหาวิธีการอื่นในการรับสลาก ไม่ให้ผู้พิการต้องไปแย่งชิงกับผู้ค้าสลากทั่วไป
ขณะที่ตัวแทนฝ่ายการตลาดและจัดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เข้าร่วมประชุมกับกลุ่มผู้พิการยืนยัน ขณะนี้มีการแก้ปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา เพื่อหาผู้ค้าสลากที่แท้จริง เพราะปัญหาสลากแพงเกิดจากผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ค้าตัวจริงมาซื้อสลากและนำไปขายต่อ ดังนั้นจึงมีการจัดระบบผ่านธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีการยกเลิกนิติบุคคลกว่า 2,000 ราย และขายให้กับรายย่อยแทน ขณะที่ระบบโควตา สำนักงานพยายามต่อสัญญากับนิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือคนพิการ ซึ่งมีการคัดเลือกแล้ว 1,023 ราย ส่วนการผ่อนปรนกฎระเบียบอายุของสลากมีเพียง 15 วัน และมีเวลาในการขายไม่เกิน 5 วัน ให้กับองค์กรต่างๆ จะต้องรีบนำเข้าระบบเพื่อให้เกิดการขายอย่างเสรี
ขณะที่ตัวแทนฝ่ายการตลาดและจัดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เข้าร่วมประชุมกับกลุ่มผู้พิการยืนยัน ขณะนี้มีการแก้ปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา เพื่อหาผู้ค้าสลากที่แท้จริง เพราะปัญหาสลากแพงเกิดจากผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ค้าตัวจริงมาซื้อสลากและนำไปขายต่อ ดังนั้นจึงมีการจัดระบบผ่านธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีการยกเลิกนิติบุคคลกว่า 2,000 ราย และขายให้กับรายย่อยแทน ขณะที่ระบบโควตา สำนักงานพยายามต่อสัญญากับนิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือคนพิการ ซึ่งมีการคัดเลือกแล้ว 1,023 ราย ส่วนการผ่อนปรนกฎระเบียบอายุของสลากมีเพียง 15 วัน และมีเวลาในการขายไม่เกิน 5 วัน ให้กับองค์กรต่างๆ จะต้องรีบนำเข้าระบบเพื่อให้เกิดการขายอย่างเสรี